คนนี้โอเค “แม่น้อย” ไฟเขียว “หญิง-ตุลย์” แค่ลูกมีความสุขแม่ก็พอใจ

2019-04-25 12:15:17

คนนี้โอเค “แม่น้อย” ไฟเขียว “หญิง-ตุลย์” แค่ลูกมีความสุขแม่ก็พอใจ

Advertisement

แค่ให้ลูกมีความสุขก็พอ !! “แม่น้อย โพธิ์งาม” ไฟเขียวแฟนหนุุ่ม “หญิง รฐา” ประทับใจในความสม่ำเสมอ “ตุลย์ ตุลยเทพ” ไม่ติดใจเรื่องสินสอด แต่ถ้ามีมารยาทก็มา !!

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งคู่แม่ลูกที่สนิทกันมากๆ สำหรับนักแสดงสาว “หญิง รฐา โพธิ์งาม” และคุณแม่คนเก่ง “แม่น้อย โพธิ์งาม” และอย่างที่หลายๆ คนทราบกันว่าว่าคุณแม่น้อยนั้นหวงลูกสาวมาก แต่ก็ยอมเปิดใจให้สาวหญิง คบกับหวานใจหนุ่ม “ตุลย์ ตุลยเทพ เอื้อวิทยา” งานนี้คู่แม่ลูกก็ได้ควงกันออกมาเปิดใจกับรายการ “คุยแซ่บ SHOW” ว่าอะไรคือสิ่งที่หนุ่มตุลย์ เอาชนะใจแม่น้อยยังไง ทั้งคู่ถึงได้คบหาดูใจกันมาได้นานขนาดนี้…




หลายคนจับตามองความรักของลูกสาวว่ากำลังสุกงอม ?

แม่น้อย : "ทุกสิ่งทุกอย่างให้ดิฉันหมดแล้ว ดิฉันมีความสุขมากๆ แล้วลูกเหนื่อยมากๆ มันจะจริงไม่จริงฉันก็รอได้ ก็รอคำตอบจากเขาเท่านั้นเอง ทุกวันนี้จะนอนแทบไม่มีเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างอะไรก็ได้ที่ทำให้ลูกแม่มีความสุข แม่พอใจ ไม่ใช่จะห่วงแต่เข้าประตูวิวาห์อย่างเดียว แต่งก็ได้ไม่แต่งก็ได้ ถ้าเป็นฉันวิ่งเข้าโบสถ์สวมแหวนจบ ถ้าลูกบอกว่าคนนี้ใช่นะ"

เวลาใครเข้ามาหาลูกเราจะไปสืบประวัติใช่ไหม ?

แม่น้อย : "ไม่เคยเลย รู้แค่หญิงพาเข้าบ้านแล้วแม่ก็ถามทันที เพราะหญิงไม่เคยพาใครมา หญิงก็บอกว่าเพื่อน"

หญิง : "คือเรารู้ว่าแม่ห่วงมาก เช็กทุกอย่าง ตอนเด็กเลยไม่กล้ามีแฟน ก็มีคุย แต่แฟนที่คบหากันก็เพิ่งมีตอนโต แต่ตอนนี้ถ้าจะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตเรา แล้วเขาก็กล้าเผชิญหน้ากับแม่เรา เขาต้องเคารพครอบครัวเราคงถึงเวลาแล้วที่จะมีใครสักคนเดินเข้ามาในบ้าน"





หญิงคิดยังไงพาพี่ตุลย์ไปเจอแม่ ? 

หญิง : "หญิงเคยเจอพี่ตุลย์เมื่อ 8 ปีที่แล้ว แล้วกลับมาเจอกันอีกที มันก็เหมือนพรหมลิขิต ในมุมของเราเขาเป็นคนดี มีความคิด เข้าถึงผู้ใหญ่ทั้งฝั่งเราและฝั่งเขา แล้วเราโตแล้วก็เลยมองการใช้ชีวิตในอนาคตก็เลยพาคนนี้มาหาแม่"

แม่น้อย : "คือตอนนั้นหญิงไปเข้าห้องน้ำ เราก็เลยได้เห็นทัศนคติเขาว่าเป็นยังไง คือเขาอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนดี แล้วถามว่าเจอกันได้ไง เขาก็เล่าให้ฟัง ยังไงก็แล้วแต่ลูกแม่ไม่เคยมีปัญหา ฉันรับประกันลูกฉันดี คนไหนว่าไม่ดีก็เสียใจไปแล้วกัน แล้วแม่ไม่รู้จักอะไรเขาเลย เพียงรู้ว่าเขาชื่อตุลย์ แล้วแม่ พ่อ เขาก็มาที่บ้านจะไปสนามบินสุวรรณภูมิ แล้วมาเปลี่ยนรถที่บ้าน"

แม่มีการทดสอบอะไรเขาไหม ? 

แม่น้อย : "ไม่จำเป็นต้องทดสอบ แค่เขาเสมอต้น เสมอปลายก็โอเคแล้ว ไปมาลาไหว้ ไม่ได้อะไรเลย ลูกตุลย์เขาพูดน้อย อย่างดีก็มารับหญิงไปทานข้าวก็แค่นั้น"



คบกันกี่ปีแล้ว ? 

หญิง : "2 ปีแล้ว"

แต่มีคนพูดถึงอดีตของพี่ตุลย์ที่เคยมีคนรักอยู่แล้ว ? 

แม่น้อย : "แม่นอยด์นิดนึง แล้วหญิงมาเล่าให้ฟังตอนนั้นหญิง อายุ 24-25 เอง หญิงเป็นคนที่ว่าถ้าแม่มีปัญหาเขาปิดประตูเลย ทำแต่งานอย่างเดียว ทีนี้แม่ทำวิธีไหนให้ลูกแม่มีความสุข แต่พอตุลย์เข้ามาตรงนี้หรือมันจะเป็นดวงจริงๆ แม่เองพ่อน้องหญิงก็มีครอบครัวมาแล้ว มีลูกมาด้วยคนนึงด้วยซ้ำไปก็ยังอยู่ได้ ทุกวันนี้ครอบครัวเขายังรักแม่อยู่เลย แต่พ่อน้องหญิงเสียแล้ว"






แล้วตอนที่หญิงรู้เรื่องคุณตุลย์รู้สึกยังไงบ้าง ? 

หญิง : "จริงๆ เราถามเลย ครั้งแรกที่เราเจอพี่เขาตามมาทานข้าวที่ฟิตเนส พอหลังจากนั้น 2 วันเขาก็ถามอีกว่าอยู่ไหน หญิงก็ถามตรงๆ ว่าพี่มากินกาแฟแล้วยังไง แล้วอีกคนยังไง เขาก็เล่าแต่ไม่ได้เล่าทั้งหมด เขาก็บอกว่าแยกทางกัน และหลังจากนั้นเราก็มีโอกาสได้เข้าไปเจอคุณแม่ เจอพี่สาว เจอพ่อ ก็ได้ยินการเล่าต่อๆ กันมาจากพี่สาว คือเราเองฟังจากผู้ชายอย่างเดียวเราก็ไม่มั่นใจ แต่พอเป็นการพูดจากครอบครัวเขาเราก็มั่นใจมากขึ้น แต่พอเวลาผ่านไปมันก็พิสูจน์ได้เองว่ามันเป็นยังไง"

แล้วเขาขอแต่งงานหรือยัง ? 

แม่น้อย : ซินแสเขาบอกว่าหญิงจะมีปลายๆ ปี ถามว่าแม่นไม่แม่นมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่เขาคุยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุย"

หญิง : "ยังค่ะ แต่เป็นเรื่องที่คุยกันตั้งแต่คบกันแรกๆ แต่ถ้าถึงขั้นที่ขออะไรจริงจังยังไม่ขนาดนั้น ถามว่าหญิงพร้อมไหม เอาจริงๆ ชีวิตเราอยู่กับแม่สองคน ถ้าวันนึงลองคิดหลับตาคิดว่าไปนอนที่อื่น หรือไปอยู่ที่อื่น ในสิ่งแวดล้อมที่มันใหม่หญิงก็ไม่รู้ว่าจะปรับตัวได้มากแค่ไหน ก็ยังคุยกับพี่ตุลย์ว่าถ้าถึงเวลาจริงๆ ก็จะขอกลับมานอนบ้านด้วย คือพี่ตุลย์เขาอยากให้แต่งเข้าไปอยู่บ้านเขา"



แล้วเรื่องสินสอดคิดหรือยัง ? 

แม่น้อย : "คิดหรือไม่คิดฉันไม่ได้สนใจตรงนั้นเลย ฉันมีพร้อม ลูกให้ทุกอย่างแล้ว บ้าน รถ ฉันมีแล้ว แต่ถ้ามารยาทคุณมี คุณก็ต้องมีมา"

ได้ยินมาว่าตอนนี้น้องหญิงพูดว่าพร้อมตายทุกวัน หมายความว่ายังไง ? 

หญิง : "คือหญิงไม่ได้มีเพื่อนหลายคน อย่างพี่ผู้จัดการเขาไปวิปัสสนา แต่หญิงเคยไปครั้งเดียวก็อ่านหนังสือเอา รู้สึกว่าเราเตรียมความพร้อมในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิต การมีลูกเราวางแพลนได้ทุกอย่าง แต่สุดท้ายเราต้องรู้ตัวและรู้จักการวางแพลนเรื่องการตายของเรา ถ้าคนเราสามารถคิดได้ว่า การเกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นเรื่องธรรมดา เราอาจจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ ก็แค่เตรียมใจไว้เมื่อถึงเวลานั้นเราอาจจะไปอยู่ในที่ที่ดี แต่ในเรื่องความรู้สึกมันก็พูดกันยาก"



แล้วความภูมิใจที่สุดในตัวลูกสาวคนนี้คืออะไร ? 

แม่น้อย : "คือเขาเป็นตัวของเขาเอง เขาดูแลแม่ ดูแลคนรอบข้าง เขาเอาใจใส่หมด"

หญิงมีอะไรจะบอกแม่ไหม ? 

หญิง : "ถ้าเกิดไม่มีแม่คนนี้ ก็ไม่มีหญิงคนนี้"

แม่น้อย : "บางครั้งเราก็คิดนะที่เราผิดพลาดมาบอกกับลูกตลอดเวลา แม่ขอโทษ แม่โง่ แม่เสียรู้คน เขาจะบอกว่าไม่เป็นไรแม่พรุ่งนี้ก็สว่างแล้ว หญิงยังอยู่ ทุกคนยังพูดเลยว่าเธอโชคดีมากมีลูกที่เก่งมากๆ เวลาเขาทำอะไรเขาจะไม่บอก เหมือนตอนเขาไปคานส์ไม่มีใครรู้เลยนะ แต่หญิงไปดังทางโน้น แล้วหญิงมาถามแม่ว่าทำอะไรอยู่ แม่บอกว่าขายของอยู่อยุธยา ออกบูธ แล้วหญิงบอกให้รีบกลับบ้านเปลี่ยนเสื้อผ้า แม่ถามว่าไปไหน หญิงบอกไปคานส์

พอฉันลงจากห้องมาบอดี้การ์ดเรียกไปนั่งบนรถ เชื่อไหมสภาพที่ฉันก้าวขาลงรถฉันเหยียบแผ่นดินฝรั่งเศสรู้สึกว่ากล้องมันมาที่ลูกเราหมดเลย แล้วเขาประกาศชื่อลูกเรา มันเป็นความภูมิใจเหมือนมันลุกออกจากรถไม่ไหว คือตอนที่ฉันมีปัญหาจนคิดอยากฆ่าตัวตายเพราะนี่แหละ ฉันทำให้ลูกอับอาย แต่ลูกไม่เคยอายเลย ก็เลยมีความรู้สึกว่าทำไมน้องหญิงคิดได้อย่างนี้" 













ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม: @realyingrhatha, @tulyatep