เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวหนุ่มชาวอเมริกัน ขโมยเรือสปีดโบ๊ทของผู้ประกอบการบนเกาะพีพี จ.กระบี่ไปขับเล่นจนเสียหายต่อหน้าต่อตาคนขับเรือ หลังขอเช่าเรือไปขับ แต่ไม่มีให้บริการ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้แล้วที่สนามบินสุวรรณภูมิ
จากกรณีที่ จนท.ตำรวจ สภ.เกาะพีพี ได้รับแจ้งจาก น.ส.อภิสมัย แสงจันทร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวบนเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ท ชื่อ ว.นรินทร์เทพ มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ว่า ถูก นักท่องเที่ยวหนุ่มชาวต่างชาติทราบชื่อคือ นายปาร์คเกอร์ วิลสัน บิช็อป อายุ 25 ปี สัญชาติอเมริกัน ขโมยขับออกไปจากจุดที่จอดไว้บริเวณอ่าวโละดาลัม บนเกาะพีพีเล ต.อ่าวนาง โดยคนขับเรือจอดเสียบกุญแจเรือทิ้งไว้ จากนั้น นทท.คนดังกล่าว ซึ่งมีอาการมึนเมา ขึ้นไปบนเรือและขับเรือออกไป ต่อหน้าต่อตาคนขับเรือหางยาวซึ่งนอนเฝ้าเรืออยู่บริเวณนั้น และได้พยายามเข้าห้ามไว้ แต่ไม่เป็นผลยังคงขับเรือหายออกไปเหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุทาง พ.ต.ท.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เกาะพีพี พ.ต.ท.มติธรรม รองผกก.จึงนำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ออกติดตามค้นหา กระทั่งเช้าวันที่ 20 เม.ย. ก็รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเรือลำดังกล่าวจอดอยู่ หน้าโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ที่อ่าวแหลมตง ม.8 เกาะพีพีดอน ต.อ่าวนาง ซึ่งอยู่ห่างไป 15 กม.คนละเกาะกับเกาะพีพีเล
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.ท.ธงชัย มติธรรม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เกาะพีพี เปิดเผยว่า ขณะนี้ศาล จ.กระบี่ ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหารายนี้แล้ว ลงวันที่ 23 เม.ย.62 เลขที่ 199/2562 ข้อหาทำให้เสียทรัพย์ โดยผู้ต้องหาตามหมายจับคือนายปาร์คเกอร์ วิลสัน บิช็อป อายุ 25 ปี สัญชาติอเมริกัน หลังรวบรวมพยานหลักฐาน และภาพจากกลองวงจรปิด พบว่า นายปาร์คเกอร์ ก่อเหตุขโมยเรือสปีดโบ๊ท และขับออกไปโดยไปจอดทิ้งไว้ที่เกาะพีพีดอน บริเวณอ่าวแหลมตง หมู่ 8 ต.อ่าวนาง ตรวจสอบสภาพเรือได้รับความเสียหายที่เครื่องยนต์ และตัวเรือแตก มีรอยถลอก ค่าเสียหายประมาณ 350,000 บาท ส่วนนายปาร์คเกอร์ หลังก่อเหตุ ก็ได้ว่าจ้างเรือบนเกาะให้กลับมาส่งบนเกาะพีพีเล และหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่จึงติดตามสืบจนทราบว่า นายปาร์คเกอร์เดินทางมาด้วยกันกับเพื่อนอีก 6 คน โดยเข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะพีพีเล เมื่อเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พร้อมตรวจภาพวงจรปิดตามจุดต่างๆ พบเกาะพีพี ทราบว่าผู้ก่อเหตุได้เดินทางออกจากเกาะพีพีไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบสวนเพื่อนผู้ก่อเหตุที่ยังพักอยู่บนเกาะพีพี ทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุพยายามจะหาเช่าเรือสปีดโบ๊ทจากผู้ประกอบการเรือบนเกาะพีพี เพื่อจะขับเรือเที่ยว แต่ไม่มีบริการให้เช่าเรือไปขับเอง เนื่องจากผู้ประกอบการเกรงจะได้รับความเสียหาย จึงเกิดความคึกคะนองก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
เบื้องต้นตำรวจ สภ.เกาะพีพี ประสานกับ จนท.ตม.กระบี่ ให้ตรวจสอบว่า ผู้ก่อเหตุเดินทางไปไหน ทราบเบาะแสล่าสุดว่า เดินทางเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน กทม.เมื่อวันที่ 21 เม.ย. แต่ยังไม่เดินทางออกนอกประเทศ จึงประสานไปยังสนามบินทุกแห่ง ให้ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมส่งหมายจับไปให้กับด่าน ตม.ทุกแห่ง ให้ช่วยสกัดและจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้แล้ว เมื่อคืนวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เกาะพีพี เตรียมเดินทางไปรับตัวมาสอบสวนดำเนินคดี