ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่ง 3 เท่าของปีที่แล้ว

2019-04-19 18:40:22

ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่ง 3 เท่าของปีที่แล้ว

Advertisement

อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยช่วงฤดูร้อนนี้พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปีนี้พบผู้ป่วย ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่าของปีที่แล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยเรียน พร้อมแนะประชาชนให้ยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงต้นปี 2562 นี้ พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ประชาชนจึงมีโอกาสเสี่ยงป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงฤดูร้อนนี้ได้ ซึ่งในปีนี้ถือว่าฤดูระบาดของโรคมาเร็วกว่าปกติประมาณ 2-3 เดือน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง หากป่วยแล้วจะมีความรุนแรงมากกว่าประชาชนทั่วไป สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 8 เม.ย. 2562 พบผู้ป่วย 130,264 ราย เสียชีวิตแล้ว 9 ราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 7-9 ปี รองลงมาคือ อายุ 10-14 ปี ซึ่งเป็นอายุที่อยู่ในกลุ่มวัยเรียน ส่วนในปี 2561 ที่ผ่านมาในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน (ม.ค. - มี.ค.) พบผู้ป่วยจำนวน 40,995 ราย และผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่าของปีที่ผ่านมา

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองจากโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะสถานที่ ที่คนอยู่รวมกันจำนวนมาก เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อการรับเชื้อได้ง่าย ทั้งนี้ โรคไข้หวัดใหญ่ สามารถติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ ของผู้ป่วย โดยรับผ่านการ ไอหรือจามรดกัน หลังจากได้รับเชื้อจะมีอาการคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อมากและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย แต่สามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน กลุ่มเสี่ยง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ปอดบวม หายใจลำบาก และอาจทำให้เสียชีวิตได้ ผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว และผู้ที่เป็นโรคอ้วน เป็นต้น หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง ควรรีบพบแพทย์ทันที

นพ.สุวรรณชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับวิธีการป้องกัน ขอให้ประชาชนยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ได้แก่ ปิด คือปิดปากและปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้หน้ากากอนามัย ผ้า หรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได เลี่ยง คือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หยุด คือ เมื่อป่วย ควรหยุดเรียน หยุดงาน แม้จะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพัก รักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากมีอาการข้างต้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่สถานพยาบาล สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422