ชาวซูดานยังคงปักหลักประท้วงต่อเนื่อง แม้ประธานาธิบดีบาชีร์จะถูกยึดอำนาจไปแล้ว แต่ก็เรียกร้องให้ทหารถ่ายโอนอำนาจให้พลเรือน และไม่ยอมรับสภาทหารถ่ายโอนอำนาจที่จะขออยู่ในอำนาจ 2 ปี จนกว่าจะมีการเลือกตั้งได้รัฐบาลพลเรือน ทำให้ประธานสภาทหารต้องยอมลาออก
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผู้ประท้วงชาวซูดานหลายพันคนในกรุงคาร์ทูม ปฏิเสธแผนการให้สภาทหารถ่ายโอนอำนาจอยู่บริหารประเทศชั่วคราว จนว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลพลเรือน หลังกองทัพโค่นอำนาจประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาชีร์ เมื่อวันพฤหัสบดี ภายหลังประชาชนประท้วงขับไล่เขามายาวนาน ซึ่งจุดชนวนมากจากราคาอาหารแพง, อัตราการว่างงานสูง และการกดขี่ข่มเหงเพิ่มมากขึ้น ในช่วง 30 ปีของการบริหารประเทศแบบเผด็จการของบาชีร์
สภาทหารให้คำมั่นว่า ประเทศจะมีรัฐบาลพลเรือนใหม่แน่นอน แต่ข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธทันทีจากกลุ่มผู้ประท้วงหลัก โดยสภาทหาร ระบุว่า คาดว่าช่วงเวลาของการถ่ายโอนอำนาจก่อนการเลือกตั้งจะใช้เวลา 2 ปี หรืออาจเร็วกว่า หากไม่มีความปั่นป่วนวุ่นวาย
ด้านนอกกระทรวงกลาโหมในกรุงคาร์ทูม ศูนย์กลางของการประท้วง มีเต็นท์ขนาดใหญ่ถูกตั้งขึ้น ขณะที่ฝูงชนหลั่งไหลและผู้ประท้วงส่งเสียงต่อต้านรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของกองทัพ
อย่างไรก็ตาม ในที่สุด อาวาด อิบัน อุฟ รัฐมนตรีกลาโหมของซูดาน ก็แถลงเมื่อวันศุกร์ว่า เขาลาออกจากตำแหน่งประธานสภาทหารถ่ายโอนอำนาจของประเทศ เพียงหนึ่งวันหลังอดีตประธานาธิบดีบาชีร์ ถูกยึดอำนาจ โดยอิบัน อุฟ แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า พลโท อับเดล ฟัตตาห์ อับเดลราห์มาน บุร์ฮาน จะเข้ามารับตำแหน่งประธานสภาทหารถ่ายโอนอำนาจคนใหม่
สำหรับนายอิบัน อุฟ เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองทหาร ระหว่างเกิดความขัดแย้งในภูมิภาคดาร์ฟูร์ ในช่วงทศวรรษที่ 2000 ซึ่งสหรัฐคว่ำบาตรเขาในปี 2550 กลุ่มผู้ประท้วงในกรุงคาร์ทูม พากันฉลองการลาออกของเขา สมาคมวิชาชีพซูดาน ซึ่งเป็นหัวหอกในการประท้วง แถลงว่า การตัดสินใจลาออกของอิบัน อุฟ ถือเป็นชัยชนะของผู้ประท้วง แต่พวกเขาก็เรียกร้องการถ่ายโอนอำนาจไปสู่รัฐบาลพลเรือน ก่อนที่จะพากันแยกย้ายกลับบ้าน