จากกรณีที่เพจดังในเฟซบุ๊ก ได้โพสต์เรื่องราว 1 ใน 8 เด็กนักเรียนพิการของโรงเรียนศรีสังวาลย์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งคว้าแชมป์เวที Thailand's Got Talent Season 4 ได้เงินรางวัล 10 ล้านบาท แต่ถูกทางโรงเรียนโกงและจ่ายเงินให้กับกลุ่มเด็กที่ได้รับรางวัลเพียงคนละห้าแสนบาทนั้น ล่าสุด นางพวงทอง ศรีวิลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ ออกมาชี้แจงแล้ว
นางพวงทอง กล่าวว่า การจัดสรรเงินรางวัลเป็นไปตามมติคณะกรรมการที่ประกอบด้วยประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้แทนครู นักเรียนที่เข้าแข่งขัน และ ผู้ปกครอง โดยการบริหารจัดการเงินรางวัลเป็นไปในนามของมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ เนื่องจากในการแข่งขันทางโรงเรียนได้ส่งทีมเข้าแข่งขันในนามของมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ สาขาโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ โดยเงินรางวัลที่ได้มาทางผู้จัดการแข่งขันได้มอบให้กับมูลนิธิฯ เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกหักภาษี เนื่องจากมูลนิธิได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากมอบให้กับเด็กโดยตรงจะต้องถูกหักภาษีถึง 47 เปอร์เซ็นต์ หรือ 4.7 ล้านบาท จะเหลือเพียง 5.3 ล้านบาทเท่านั้น การมอบเงินให้กับมูลนิธิจะทำให้เงินไม่ถูกหัก
ในการจัดสรรเงินรางวัล คณะกรรมการได้เห็นชอบให้แบ่ง 3 ส่วน คือ ส่วนแรก เด็กที่เข้าแข่งขัน 8 คน คนละ 500,000 บาท โดยแบ่งจ่ายให้ปีละ 100,000 บาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาและค่ารักษาพยาบาลที่จำเป็น โดยเปิดบัญชีเป็นชื่อของเด็กเอง จ่ายทุกวันที่ 18 ธ.ค. ของทุกปี งวดสุดท้ายวันที่ 18 ธ.ค. 2562 ห้ามพ่อแม่ผู้ปกครองนำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่ายอย่างอื่น หากผู้ปกครองจะใช้จะต้องได้รับอนุญาตจากเด็กก่อน สำหรับในส่วนที่สอง คือ ครูและบุคลากรทุกคน จะได้รับผลประโยชน์ในลักษณะเงินกู้สวัสดิการ โดยทางคณะกรรมการจะนำเงิน 10 ล้านบาท ไปซื้อสลากออมสินของรัฐบาล เพื่อจะได้ดอกเบี้ยเงินฝากร้อยละ 2.7 และ ให้คณะกรรมการมูลนิธิฯกู้เงินเงินออกมา 9.5 ล้านบาท นำเงินนี้เข้ากองทุนสวัสดิการครูและบุคลากรของโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ นำออกให้สมาชิกกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 12 บาทต่อปี โดยเมื่อคิดจากเงินต้น 9.5 ล้านบาท กองทุนจะได้รับดอกเบี้ยจากเงินกู้ปีละประมาณ 1 ล้านบาท เงินดอกเบี้ยที่ได้นี้ก็จะนำไปจ่ายเป็นเงินรางวัลให้กับเด็กตามส่วนแรก
สุดท้ายในส่วนที่สาม เด็กพิการทั้งโรงเรียนจะได้รับประโยชน์ โดยจะได้รับเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนพิการโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสิรมเด็กที่มีความสามารถพิเศษในด้านต่าง ๆ เช่นเดียวกับกลุ่มวีลแชร์แดนซ์ที่ได้รับการส่งเสริม โดยใน 4 ปี แรกกองทุนนี้จะไดรับเงินปีละ 200,000 บาท นำมาจากดอกเบี้ยที่เหลือจากจากที่จ่ายให้เด็กที่ได้รับรางวัล และในอนาคตข้างหน้ากองทุนนี้ก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นปีละ 1 ล้านบาท โดยที่เงินรางวัล 10 ล้านบาทก็ยังคงอยู่ ในรูปแบบของสลากออมสิน
เบื้องต้นได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกับนายทัศนัย แล้วเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งนายทัศนัย บอกว่ามีคนเข้ามาพูดคุยเป็นปกติธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ โดยได้ทำความเข้าใจกันแล้ว ทั้งนี้การที่มีการนำเรื่องราวดังกล่าวนี้ไปโพสต์ในแง่หนึ่งมองว่าเป็นการดีที่จะได้มีโอกาสชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะยังมีผู้ที่มีข้อมูลหรือเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอยู่ ถือเป็นการได้รับข้อมูลเพียงด้านเดียวและนำไปเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ โดยไม่สอบถามข้อมูลจากทางโรงเรียนแม้แต่น้อย จนทำให้ถูกต่อว่าและถือว่าไม่ยุติธรรมกับผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรของโรงเรียน ดังนั้น ทางโรงเรียนเตรียมฟ้องหมิ่นประมาทกับเพจดังกล่าวรวมทั้งผู้โพสต์หรือแชร์ข้อความโดยไม่ทราบข้อเท็จจริงจนทำให้ทางโรงเรียนเสียหายด้วย