ประธานมูลนิธิข้าวขวัญเข้าพบ ป.ป.ส.

2019-04-11 18:20:25

ประธานมูลนิธิข้าวขวัญเข้าพบ ป.ป.ส.

Advertisement

ป.ป.ส.ยันไม่แจ้งข้อกล่าวหา “อ.เดชา” ปล่อยยื่นเรื่องนิรโทษกรรมกัญชาตามกำหนด


เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ พร้อมนายพรชัย ชูเลิศ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี(ไบโอไทย) ทีมทนายความ เข้าพบนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ กรณีครอบครองกัญชาเพื่อการแพทย์ในระหว่างรอยื่นคำร้องขอนิรโทษกรรมตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ทาง ป.ป.ส.ได้พูดคุยหารือกับนายเดชา และคณะ เพื่อให้เข้าใจถึงการดำเนินงานของมูลนิธิข้าวขวัญ โดยเข้าใจว่าทางเรามีการตีความข้อกฎหมายต่างกัน ยืนยันว่า ทางเราได้ทำตามขั้นตอนภายใต้เงื่อนไขขอยื่นเรื่องนิรโทษกรรมผู้ครองกัญชาในกรอบเวลา 90 วัน และเพื่อไม่ให้เป็นการแทรกแซงทางเราจึงจะปล่อยให้นายเดชาดำเนินการตามขั้นตอนไปก่อน สำหรับเรื่องของกลางที่ยึดมาและคดีความนั้น ขอเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวนต่อไป ยืนยันว่ายังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับนายเดชาทั้งสิ้น


ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล ตัวแทนมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวว่า ทางมูลนิธิได้ทำเอกสารชี้แจงกรณีนายเดชาเพื่อยื่นนิรโทษกรรมผู้ครอบครองกัญชา แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ให้การยอมรับ จึงเตรียมให้ชาวบ้านรวมถึงกำนันผู้ใหญ่บ้านและตัวแทนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลรวบรวมรายชื่อไม่ต่ำกว่า 10 คน เพื่อให้การรับรองนายเดชาเพื่อขึ้นทะเบียนหมอพื้นบ้านประกอบการนิรโทษกรรมต่อไป นอกจากนี้ ทางมูลนิธิเครือข่ายทั้งสาม ได้รับติดต่อจากคณบดีคณะเภสัชกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้นายเดชา รวมถึงหมอพื้นบ้านร่วมหารือและศึกษาวิจัยกัญชาทางการแพทย์

ขณะที่ นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยเปิดใจถึงจุดยืนของทั้งสองฝ่าย ทาง ป.ป.ส.เข้าใจว่าตนไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ต่อตนเอง แต่ทำให้กับผู้ป่วย ยืนยันว่าเหตุที่เกิดขึ้นมาจากการตีความหมายต่างกัน สำหรับการจับกุมนายพรชัยในระหว่างที่ตนเดินทางไปต่างประเทศนั้นเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ได้ทำตามกฎหมาย ทั้งนี้ ขอขอบคุณทาง ป.ป.ส.ที่ยังไม่ดำเนินคดีใดกับตน จากนี้ในการกระทำใดๆ ต่อจากนี้เราจะเปิดเผยกันทั้งสองฝ่าย เพื่อเป็นสัญญาประชาคม ให้ประชาชนตรวจสอบกันทุกฝ่าย ไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะกลุ่ม ผู้มีส่วนได้เสียในกรณีนี้ต้องรับรู้รับทราบ

อย่างไรก็ตาม ยอดผู้บริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือการต่อสู้ทางคดีของนายพรชัยและนายเดชา ขณะนี้รวมทั้งสิ้น1,234,919.96 บาท