อย. ร่วมกับ บก.ปคบ. รุดตรวจสอบแหล่งจำหน่ายคอลลาเจนชื่อดัง ยึดของกลางกว่า 1 ล้านบาท เบื้องต้นฟ้ัน 2 ข้อหา ผลิตภัณฑ์อาหารแสดงฉลากไม่ถูกต้อง ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท โฆษณาอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับไม่เกิน 5,000 บาท พร้อมส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจวิเคราะห์
เมื่อวันที่ 11 เม.ย. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา พร้อมด้วย นพ.พูลลาภ ฉันทวิจิตรวงศ์ และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก 4.บก.ปคบ.) นำทีมโดย พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ.) ได้ร่วมกันตรวจสอบแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งมีการจำหน่ายสินค้าผ่านทางสื่อออนไลน์พบข้อความโฆษณา “อวดอ้างสรรพคุณผิวขาวกระจ่างใส ลดสิว ลดฝ้า กระ ลดรอยดำรอยแดง ลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวขาวใสขึ้นมีออร่า ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นผิวกระชับขึ้น และลดสิวที่หลัง บำรุงเล็บเงา เร่งผม ” โดยตรวจสอบ บ้านพักอาศัย ต.บ้านแถว อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และ ห้องเช่า ซอยคู้บอน 40 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. พบของกลางมูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านบาท จึงได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 ดังนี้ 1. ผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท 2.โฆษณาอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งนี้หากตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า 1. เป็นการโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดการหลงเชื่อโดยไม่สมควร มีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และจะดำเนินการทางปกครองต่อไป 2.หากผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์พบยาแผนปัจจุบัน จัดเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเจือปนอยู่ เข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจําคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และกรณีเป็นผู้จำหน่ายปลีกให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้าผู้นั้นกระทำความผิดอีกภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่ได้กระทำความผิดครั้งก่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.ธเรศ กล่าวต่อว่า อย. และ บก.ปคบ.จะได้ขยายผลเข้าตรวจสอบโรงงานที่ผลิตและหากผลการตรวจวิเคราะห์พบยาแผนปัจจุบัน จะดำเนินมาตรการทางปกครองทันที และขอย้ำว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดจะไม่สามารถกล่าวอ้างรักษาโรคหรืออ้างว่ามีสรรพคุณทางยาได้ ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจัดเป็นอาหารกลุ่มหนึ่ง ซึ่งใช้รับประทานนอกเหนือจากการรับประทานอาหารตามปกติ ซึ่งมีสารอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์มักอยู่ในรูปของเม็ด แคปซูล ผง เกล็ด ของเหลว หรือลักษณะอื่นที่ไม่ใช่รูปแบบอาหารปกติ จึงขอเตือนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง อ้างรักษาได้สารพัดโรค เนื่องจากข้อความโฆษณาที่มีการอวดสรรพคุณในทางยาหรืออวดสรรพคุณรักษาโรค อย. จะไม่อนุญาตให้โฆษณาแต่อย่างใด และจะมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย