นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล อยู่ในเส้นทางที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลผสมฝ่ายขวาอีกสมัยหนึ่ง ครองสถิติเป็นผู้นำประเทศยาวนานที่สุด 5 สมัย โดยผลการสำรวจคะแนนนิยมหน้าคูหาเลือกตั้ง หรือเอ็กซิตโพลของสถานีโทรทัศน์อิสราเอล พบว่า หลังปิดหีบเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอังคารที่ 9 เมษายน ให้พรรคลิคุดของนายเนทันยาฮูกับพรรคแนวร่วมมีภาษีดีกว่า แต่เบนนี แกนต์ซ นายพลเกษียณอายุ คู่แข่งคนสำคัญ ก็อ้างชัยชนะเช่นกัน
นายเนทันยาฮู ซึ่งอยู่ในอำนาจต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552 กำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอดทางการเมือง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าเขาจะถูกดำเนินคดีในคดีคอร์รัปชั่น 3 ข้อหา ซึ่งหัวหน้าพรรคลิคุด พรรคการเมืองฝ่ายขวาปฏิเสธการกระทำความผิด ทั้งนี้ หากชนะการเลือกตั้ง ผู้นำอิสราเอลวัย 69 ปีผู้นี้ จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ 71 ปีของอิสราเอลในช่วงฤดูร้อนนี้
เอ็กซิตโพลของสถานีโทรทัศน์ 2 ใน 3 ช่องหลักของอิสราเอล พบว่า พรรคบลู แอนด์ ไวท์ ของแกนต์ซ คู่แข่ง ชนะได้ที่นั่งมากกว่าพรรคลิคุดเล็กน้อย ในจำนวนสมาชิกรัฐสภา 120 คน ส่วนเอ็กซิตโพลแห่งที่ 3 คาดว่าจะสูสีกัน โดยช่อง 13 คาดว่า นายเนทันยาฮูจะรวบรวมส.ส.ตั้งรัฐบาลได้ 66 ที่นั่ง เมื่อเทียบกับ 54 ที่นั่งสำหรับกลุ่มการเมืองฝ่ายซ้ายที่นำโดยพรรคบลูแอนด์ไวท์ ของแกนต์ซ ส่วนพับลิก ทีวี คาน ให้พรรคลิคุดของเนทันยาฮูได้คะแนน 64 ต่อ 56 ขณะที่ ช่อง 12 คาดการณ์คะแนนสูสี แต่ละพรรคจะรวบรวมส.ส.ได้ประมาณ 60 ที่นั่ง ซึ่งถ้าผลตามเอ็กซิตโพล แม้ว่าจะไม่มีพรรคการเมืองใดได้ครองเสียงข้างมากในสภา “คเนสเซต” แต่ผลการสำรวจก็ให้นายเนทันยาฮู มีฐานะที่แข็งแกร่งกว่า ที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคฝ่ายขวาอื่น ๆ
นายเนทันยาฮู ระบุในแถลงการณ์ว่า พรรคการเมืองฝ่ายขวาที่นำโดยพรรคลิคุด ชนะการเลือกตั้งอย่างชัดเจน เขาจะเริ่มตั้งรัฐบาลฝ่ายขวากับพรรคการเมืองแนวร่วมในคืนนี้ ส่วนโฆษกของพรรคบลูแอนด์ไวท์ ก็ประกาศอ้างชัยชนะเช่นกัน
