สถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักฯ แห้งขอด น้ำเหลือร้อยละ 25 ชาวบ้านลงไปเดินหาหอยหาปู ตามซอกหินท้ายเขื่อนได้ โดยติดประกาศหน้าเขื่อนงดทำนาต่อเนื่องเก็บน้ำไว้อุปโภคบริโภคฤดูแล้ง
สำหรับสถานการณ์น้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต.หนองบัว อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ล่าสุดพบว่า น้ำต้นทุนเหลือร้อยละ 25.32 ของความจุเขื่อน เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงปรับลดการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาพจากมุมสูงจะเห็นสภาพความตื้นเขินและสันดอนตามแนวเขื่อน โดยเฉพาะบริเวณประตูระบายน้ำทั้ง 7 บานด้านท้ายเขื่อน ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้น้ำไหลผ่านเพียงเล็กน้อย เพียงบานเดียว เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ด้านท้ายน้ำทำให้น้ำตื้นเขิน จนชาวบ้านสามารถเดินลงไป หาหอย หาปู ตามซอกหิน ด้านท้ายเขื่อนได้
ทั้งนี้ นายศุภชัย มโนการ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะนี้อยู่ที่ 243.11 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 25.32 จากปริมาณเก็บกักสูงสุด 960 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยไม่มีปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำทำให้น้ำต้นทุนในเขื่อนเหลือน้อยและยังคงต้องระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน เพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศ การอุปโภค บริโภค โดยปัจจุบันได้เปิดประตูระบายน้ำเพียงแค่ 1 บาน จากทั้งหมด 7 บาน ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ ขึ้นป้ายข้อความขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้าปากทางเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยมีความความว่า “หวั่นปีนี้ ภัยแล้งรุนแรง ยาวนาน วอนเกษตรกรไม่ควรเพาะปลูกข้าวต่อเนื่องหลังเก็บเกี่ยว” เพื่อเป็นการแจ้งให้เกษตรกร ลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำในการเพาะปลูกตลอดฤดูกาล ซึ่งอาจทำให้นาข้าวเสียหายได้ ซึ่งเกษตรกรควรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนเพื่อลดความเสี่ยงพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังเพื่อเป็นสำรองน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดไว้ใช้ สำหรับการอุปโภคและบริโภคไปตลอดช่วงฤดูแล้งนี้