เกาหลีใต้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเมื่อวันศุกร์ เพื่อรับมือกับไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 ราย และกว่า 4,000 คน อพยพออกจากพื้นที่
ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ผ็นำเกาหลีใต้ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมฉุกเฉินของเจ้าหน้าที่ศุนย์บริหารจัดการวิกฤตแห่งชาติเมื่อคืนที่ผ่านมา ออกคำสั่งให้ทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ทั้งหมด ช่วยกับควบคุมไฟป่าที่ปะทุลุกไหม้อย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และให้ความช่วยเหลือประชาชน
เพื่อจัดการกับไฟป่า “ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” รัฐบาลโสมขาวได้ระดมรถดับเพลิงหลายร้อยคันทั่วประเทศ เข้ามาในพื้นที่ประสบภัยเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมด้วยนักผจญเพลิง, ทหารและตำรวจรวมกันกว่า 17,000 นาย
พอในช่วงเช้า ทางการก็ส่งเฮลิคอปเตอร์กว่า 50 ลำ เข้ามาช่วยดับไฟ ซึ่งพื้นที่ที่เกิดไฟฟ่ารุนแรงที่สุดในเมืองโกเซียง และซอกโช จังหวัดกังวอน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโซล สามารถควบคุมเอาไว้ได้แล้ว โดยไฟป่ากว่าร้อยละ 70 ในอีก 3 พื้นที่ ก็มีรายงานว่า สามารถควบคุมเอาไว้ได้ในช่วงบ่ายวันศุกร์
ด้านประธานาธิบดีมุน เดินทางไปยังโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในเมืองโกเซียง เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนจำนวนมากที่อพยพเข้าไปพักอาศัย หลังสูญเสียบ้านเรือนตัวเอง ผู้นำเกาหลีใต้สั่งให้รัฐบาลพิจารณากำหนดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้เป็นเขตภัยพิบัติพิเศษ เพื่อให้ประชาชนผู้เดือดร้อนได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐอย่างรวดเร็วและโดยตรง
นอกจากนี้ กระทรวงรวมชาติของเกาหลีเหนือ ที่ดูแลรับผิดชอบกิจการระหว่าง 2 เกาหลี แถลงว่า ได้แจ้งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับไฟป่าครั้งนี้ให้ทางเกาหลีเหนือได้รับทราบแล้ว ผ่านช่องทางสำนักงานประสานงานระหว่างเกาหลีในเมืองแกซอง พรมแดนเกาหลีเหนือ ซึ่งเปิดในเดือนกันยายน ปีที่แล้ว เพื่อติดต่อสื่อสารกันโดยตรงตลอด 24 ชั่วโมง