กรมสุขภาพจิตเผยสถิติประชาชนโทรปรึกษาสายด่วน 1323 เรื่องความเครียดจากการเมืองเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 แนะรับฟังความคิดที่แตกต่างได้ แต่ไม่แตกแยก
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยรายงานสถิติการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตทางโทรศัพท์ สายด่วน 1323 ในรอบเดือน ก.พ.-มี.ค.2562 ที่ผ่านมา พบว่า มีการให้บริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต รวมจำนวน 13,229 ครั้ง โดยปัญหาด้านสุขภาพจิตที่พบมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ปัญหาทางจิตเวช ร้อยละ 39.02 อันดับที่ 2 ความเครียด/วิตกกังวล ร้อยละ 27 อันดับที่ 3 ปัญหาความรัก ร้อยละ 8.74 อันดับที่ 4 ปัญหาซึมเศร้า ร้อยละ 6.89 และอันดับที่ 5 ปัญหาครอบครัว ร้อยละ 5.59
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า หากวิเคราะห์ข้อมูลในรายเดือนจะพบว่า ผู้ที่โทรศัพท์ปรึกษาเฉพาะเรื่องความเครียดและวิตกกังวลจากการเมือง เพิ่มขึ้นร้อยละ 68 เนื่องจากเป็นช่วงของการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนใหญ่เกิดความเครียดจากการมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันทางการเมืองระหว่างคนใกล้ชิด คนในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงาน ทำให้รู้สึกเครียด จึงโทรศัพท์มาปรึกษาพูดคุยเพื่อระบายความเครียด โดยขณะนี้กรมสุขภาพจิต กำลังติดตามเรื่องความเครียดจากการเมืองอย่างใกล้ชิด
“ในสังคมประชาธิปไตย ประชาชนทุกคนมีสิทธิที่จะมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องไม่แตกแยก สามารถอยู่ร่วมกันได้ เน้นรับฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่นด้วยความเคารพ และให้เกียรติกัน เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดสะสมและวิตกกังวลจนเกินไป ควรมีการติดตามข้อมูลข่าวสารบ้านเมืองอย่างพอดี เปิดกว้างรับข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย ไม่รับข้อมูลข่าวสารเพียงด้านเดียว ทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นปกติ พักผ่อนให้เพียงพอ และ มีการผ่อนคลายความเครียด ทั้งนี้ หากยังมีความเครียดและวิตกกังวลอยู่ สามารถโทรมาขอรับบริการปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือขอรับบริการด้านสุขภาพจิตจากโรงพยาบาลจิตเวชในสังกัดกรมสุขภาพจิตได้ทุกแห่งทั่วประเทศ” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว