สหรัฐตบหน้าอินเดีย มั่วนิ่มอ้างสอยเอฟ-16ของปากีสถานร่วง

2019-04-05 17:40:12

สหรัฐตบหน้าอินเดีย มั่วนิ่มอ้างสอยเอฟ-16ของปากีสถานร่วง

Advertisement

วารสารนโยบายต่างประเทศที่มีฐานอยู่ในสหรัฐ รายงานอ้างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สหรัฐ ระบุว่า เครื่องบินรบ เอฟ-16 ของปากีสถานยังอยู่ครบทุกลำ ซึ่งขัดแย้งกับการประเมินของกองทัพอากาศอินเดียที่บอกว่า อินเดียยิงเครื่องบินรบ เอฟ-16 ของปากีสถานตกหนึ่งลำในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อินเดียและปากีสถาน เปิดศึกกลางเวหาเหนือพื้นที่พิพาทแคชเมียร์หนึ่งวันหลังเครื่องบินขับไล่ของอินเดีย บินรุกล้ำเข้าไปในปากีสถานเพื่อโจมตีพื้นที่ต้องสงสัยว่าเป็นค่ายของกลุ่มหัวรุนแรงที่ก่อเหตุโจมตีอินเดีย

เครื่องบินขับไล่อินเดีย ถูกยิงตกหนึ่งลำระหว่างการสู้รบ และนักบินถูกควบคุมตัวได้ เมื่อเขาดีดตัวออกจากเครื่องบินเข้าไปตกในดินแดนปากีสถาน แต่อินเดียก็แถลงด้วยว่า สามารถยิงเครื่องบินรบของปากีสถานตกลำหนึ่ง และกองทัพอากาศก็แสดงชิ้นส่วนของขีปนาวุธลูกหนึ่งที่อินเดียอ้างว่า ถูกยิงจากเอฟ-16 ของปากีสถาน ก่อนที่มันจะถูกสอยร่วง




อย่างไรก็ตาม วารสารนโยบายต่างประเทศ ระบุในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีว่า เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐ 2 คน ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ กล่าวว่า ทหารสหรัฐได้จัดการนับเอฟ-16 ของกองทัพปากีสถานแล้ว และพบว่า อยู่ครบ ไม่ได้สูญหายไปไหนแม้แต่ลำเดียว

เอฟ-16 ผลิตโดยบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน ของสหรัฐ และภายใต้ข้อตกลงจนสิ้นสุดการใช้งาน สหรัฐต้องเป็นเจ้าภาพอนุญาตให้มีการตรวจสอบตามปกติ เพื่อรับประกันว่า เอฟ-16 ได้รับการดูแลและปกป้องเป็นอย่างดี



รายละเอียดของการสู้รบทางอากาศระหว่างอินเดียและปากีสถาน ไม่ได้มีการเปิดเผยจากทั้งสองฝ่าย หากรายงานของสหรัฐเป็นความจริง ก็เท่ากับเป็นการสวนทางกับคำกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ผู้นำอินเดีย ที่ระบุว่า อินเดียได้สอนบทเรียนให้ปากีสถาน

ส่วนความสำเร็จในการโจมตีทางอากาศของอินเดียต่อค่ายกลุ่มหัวรุนแรงจาอีช-อี-โมฮัมหมัด ในภาคนะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถานนั้น ยังน่าเคลือบแคลงสงสัย หลังมีการเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมพบสัญญาณความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

พรรคภาราติยะ ชนตะ หรือบีเจพี พรรคชาตินิยมฮินดู ของนายโมดี ซึ่งจะมุ่งหน้าสู่การเลือกตั้งที่สูสีในสัปดาห์หน้านี้ กำลังรณรงค์ชูนโยบายคุมเข้มความมั่นคงของชาติ โดยเฉพาะกับปากีสถาน ศัตรูตัวร้าย นิวเดลีประณามปากีสถานว่า อยู่เบื้องหลังความรุนแรงในแคชเมียร์ ที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมตลอด 30 ปีที่ผ่านมา แต่อิสลามาบัดปฏิเสธความเกี่ยวข้อง