ปรับร้านซีฟู้ดริมหาดหัวหิน 1,000 บาทขายน้ำแข็งเกินราคา แม่ค้าแจ้งความคนโพสต์หลังโดนสังคมจวกหนัก
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายประสพชัย พูลเกิด พาณิชย์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายจีรวัฒน์ พราหมณี พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภหัวหิน พ.ต.ต.วโรดม ใบเรือ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเมนูร้านอาหารป้าแก้วซีฟู้ด ของนางอารีย์หรือแก้ว นุ่มเจริญ อายุ 67 ปี เจ้าของร้านค้าที่ 2 ริมทะเลบริเวณทางลงชายหาดด้านข้างโรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหินหลังก่อนนี้เป็นข่าวดังทางโซเซียลจนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนัก จากที่มีนักท่องเที่ยวไปนั่งริมหาดชายทะเลหัวหิน เจอมุข "เก้าอี้นั่งฟรี" แต่ขอให้สั่งอาหาร พอยอมทำตามกลับเจอกติกาคูณ 2 เรียกเก็บเงินราคาพุ่งไปกว่า 2,000 บาทเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้พบว่าราคาน้ำแข็งที่จำหน่ายถังละ 10 บาท แต่ทางร้านแสดงราคาในเมนูถังละ 20 บาทและบางเมนูถังละ 30 บาท เจ้าหน้าที่จึงทำการเปรียบเทียบปรับทันที 1,000 บาท เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยสินค้าและบริการฉบับที่ 50 พ.ศ.2562 มีความผิดตามมาตรา 28 และมีโทษตามมาตรา 50 พ.ร.บ.ว่าด้วยสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 โดยนางอารีย์ ให้การยอมรับและยินยอมจ่ายค่าปรับ และการกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการฝ่าฝืนตามบันทึกข้อตกลงที่ผู้ประกอบการลงนามกับเทศบาลเมืองหัวหิน ซึ่งทราบว่าจะมีการลงโทษภาคทัณฑ์เพราะเป็นความผิดครั้งแรก
นายประสพชัย กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการตามที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานเพื่อเชิญผู้โพสต์มาสอบถามรายละเอียดอีกครั้ง เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงกับเจ้าของร้านที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน แต่ปัญหาดังกล่าวถือว่าเป็นช่องว่างหรือข้อยกเว้น ที่ไม่ได้ระบุไว้ในบันทึกข้อตกลงระหว่างร้านค้ากับเทศบาล ทำให้ผู้ประกอบการบางรายนำการนั่งเตียงผ้าใบฟรีแต่มีเงื่อนไข ไปเป็นข้อต่อรองกับลูกค้าเพื่อสั่งอาหารและเครื่องดื่มตามจำนวนลูกค้า และขอเรียนว่าการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานราชการหลายครั้งที่ผ่านมา ยังไม่สามารถทำให้การเอาเปรียบผู้บริโภคหมดไป ดังนั้นประชาคมชาวหัวหิน ควรให้ความสนใจร่วมกันใช้มาตรการทางสังคม เพื่อลงโทษผู้ที่ประกอบกิจการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เพื่อไม่ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหายไปมากกว่านี้
ขณะที่ นางอารีย์ นุ่มเจริญ เจ้าของร้านอาหารป้าแก้วซีฟู้ด เปิดเผยว่าขณะนี้ตนได้ไปแจ้งความโดยลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.หัวหิน เรียกร้องให้คู่กรณี คือผู้โพสต์เฟซบุ้กชื่อ “นันทมนลักษณ์ วรธราธรณ์” ออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นเนื่องจากทางร้านได้รับความเสียหายและความเดือดร้อน โดยยืนยันว่าข้อมูลที่ลงไปในโซเชียลมีการบิดเบือนจากความเป็นจริง อยากให้ออกมาคุยกัน หากว่าเราผิดเราก็ยอมรับผิด แต่เรามั่นใจว่าทางร้านทำการกติกาที่ทางเทศบาลบาลได้กำหนดไว้ทุกอย่างแล้ว หากคิดว่าเราทำไม่ถูกต้องจริงทำไมคุณไม่แย้งตั้งแต่วันที่เราคิดเงินไป มาทำแบบนี้เราเสียหายและเสียชื่อเสียงอย่างมาก