“ชุมสาย” ชี้มีการสมคบคิดเข้าสู่อำนาจ ฝ่าย ปชต.ต้องจับมือให้มั่น เตือน กกต.อาจต้องรับผิด
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้หากไล่เรียงตั้งแต่การปลุกม็อบขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาจนถึงวันนี้รวมเวลา 5 ปีกว่า นับว่าใกล้บรรลุภารกิจแล้วเหลือเพียงการเข้าสู่อำนาจของคณะผู้มีอำนาจชุดเดิม ซึ่งทุกๆความเป็นไปในปรากฏการณ์ทางการเมืองจนถึงวันนี้ล้วนมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ ทุกกลไกแห่งอำนาจถูกใช้บริหารจัดการอย่างเต็มกำลัง พรรคฝ่าย ปชต.จึงต้องจับมือกันให้มั่นคงเพื่อป้องกันการสืบทอดอำนาจอย่างแข็งขัน
นายชุมสาย กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ สะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนได้ชัดเจน โดยเฉพาะ พรรคการเมืองเก่าแก่ที่จำนวน ส.ส.ลดน้อยลงมากและพรรคการเมืองใหม่ที่ได้จำนวน ส.ส.จำนวนมาก นัยหนึ่งชี้ว่าสังคมไทยได้ตรวจสอบและศึกษาการเมืองไทยอย่างละเอียดและกำหนดตัวผู้แทนผ่านการเลือกตั้ง 1 สิทธิ 1 เสียงของประชาชน ดังนั้นพรรคใดก็ตามที่ได้เคยประกาศเจตนารมณ์ประชาธิปไตย และให้สัญญาประชาคมกับประชาชนไว้ควรต้องรักษาสัจจะและเคารพเสียงแห่งประชาชน
นายชุมสาย กล่าอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือเรื่องที่สังคมสงสัยในบัตรลงคะแนน จำนวนผลคะแนน บัตรเกิน บัตรเสีย บัตรงอก บัตรเขย่ง บัตรล่วงหน้า บัตรจากต่างประเทศที่ต้องมีผู้รับผิดชอบ และวิธีการคิดจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ค่อนข้างจะสับสน ตีความได้หลายนัย จนทำให้ กกต.ถูกสังคมตั้งคำถามอย่างหนักในเวลานี้ โดยเฉพาะบัตรเขย่ง ที่ตัดคะแนนพรรคใหญ่ไปให้พรรคเล็กๆ ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าจะต้องมีคะแนนไม่น้อยกว่า 70,000 คะแนน จึงจะได้ ส.ส.1 คน น่าจะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฎหมาย จึงอยากถามไปยัง กกต.ว่า เกิดเรื่องราวแบบนี้ในบ้านเมืองนี้ได้อย่างไร แล้วจะมีมาตรการใดในการแก้ไขเยียวยาเพราะเชื่อว่านับจากนี้ผู้สมัคร ส.ส.หรือพรรคการเมืองที่ได้รับความเสียหายอาจต้องรักษาสิทธิของเขา กระบวนการในการค้นหาความจริงและเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษจะมีมากขึ้น ตามลำดับ เพราะประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและหวงแหนอำนาจอธิปไตยของเขามีจำนวนไม่น้อยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ และคนหนุ่มสาวที่มีพลังอย่างน่าตกใจ