เลขาธิการยูเอ็น ออกมาเตือนทั่วโลก เสนอแผนที่เป็นรูปธรรม ในการต่อสู้กับปัญหาโลกร้อน โดยชี้ให้เห็น ไซโคลน “อิได” ที่พัดถล่ม 3 ประเทศในแอฟริกา มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน เป็นสัญญาเตือนหายนะที่เกิดจากโลกร้อนชัดเจน
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เตือนหลายประเทศเสนอมาตรการที่เป็นรูปธรรมต่อที่ประชุมโลกร้อนครั้งหน้า ขณะที่เขาเผยแพร่รายงานร้อนชิ้นหนึ่งเกี่ยวกับสภาพโลกร้อนขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือดับเบิลยูเอ็มโอ เมื่อวันพฤหัสบดี เขาบอกว่าซากความเสียหายที่เกิดจากไซโคลน “อิได” ใน 3 ประเทศแอฟริกาเมื่อต้นเดือนนี้ เป็นสัญญาณเตือนหายนะของโลก อันเนื่องมากจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก และเลขาธิการยูเอ็น ยังระบุด้วยว่า สภาพภูมิอากาศเลวร้ายเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตจำนวนมาก
ดับเบิลยูเอ็มโอเผยแพร่รายงานชิ้นนี้ ขณะที่ นายกูเตอร์เรสก็ขอเสียงสนับสนุนสำหรับการประชุมสุดยอดโลกร้อนในเดือนกันยายน เพื่อโน้มน้าวให้ฝ่ายการเมืองจัดการวิกฤตโลกร้อนอย่างจริงจัง ผู้แทนของประเทศต่าง ๆ ควรจะพิจารณาส่งเสริมแผนการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใต้ความตกลงปารีส หากไม่แล้วมันจะสายเกินแก้ ไม่สามารถทำให้เป้าหมายที่กำหนดไว้ในกรุงปารีส ประสบความสำเร็จได้
ทั้งนี้ ความตกลงปารีส ปี 2558 ซึ่งมีเกือบ 200 ประเทศเห็นชอบ ตั้งเป้าร่วมกันควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสจากระดับอุณหภูมิช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมทั้งการลดการใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล แต่อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นประมาณ 1 องศาเซลเซียสแล้ว และอาจจะเห็นอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 3-5 องศาเซลเซียสภายในสิ้นสุดศตวรรษนี้ โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์ได้เชื่อมโยงปัญหาโลกร้อน กับการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของระดับน้ำทะเล, การละลายของน้ำแข็งในทะเล, การละอายของธารน้ำแข็ง และสภาพอากาศแปรปรวนรุนแรงอื่น ๆ เช่นการเกิดคลื่นความร้อน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของดับเบิลยูเอ็มโอ ระบุว่า ไซโคลน อิได ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,000 รายหลังพัดถล่มโมซัมบิก และเข้ากระหน่ำซิมบับเวและมาลาวี เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ส่วนเมื่อปีที่แล้ว ทั่วโลกมีประชาชนได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเกือบ 62 ล้านคน ส่วนใหญ่จากน้ำท่วม