โดยนายมิทซึจิ ยืนยันว่า เงินกู้ยืมที่ให้แก่ผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มปรากฏอยู่ในงบการเงินของบริษัทฯ มาตั้งแต่ปี 2557 ไม่ได้เพิ่งปรากฏขึ้นตามที่มีกระแสข่าว ซึ่งเป็นกระแสเงินสดของบริษัท และเงินจากการขายออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ จึงเป็นแหล่งเงินที่ไม่มีภาระผูกพัน และการกู้ยืมยังเป็นไปตามเงื่อนไขการค้าทั่วไปที่ปรากฏในหนังสือบริคณห์สนธิ โดยพิจารณาให้กู้เพราะผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มเป็นพันธมิตรที่สำคัญทางธุรกิจ และมีสภาพคล่องของหลักประกันตรงตามเงื่อนไข
รวมทั้งยังไม่ได้เป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทและบริษัทย่อยของ GL ตามข้อสังเกตของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มมีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ใน GL เพียงร้อยละ 5 จึงไม่ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ หรือ Connected Party และทาง GL ก็ไม่ได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ให้เข้าไปชี้แจงกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้สำหรับผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์มียอดเงินต้นรวม 56,346,950 ดอลลาร์สหรัฐ คิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 18.1 โดยเงินต้นจะทยอยครบกำหนดชำระในปี 2560 และ 2561
ส่วนผู้กู้กลุ่มไซปรัสมียอดเงินต้นรวม 41,779,071 ดอลลาร์สหรัฐ คิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 15 เงินต้นจะทยอยครบกำหนดชำระในปี 2561 / 2562 และ 2563 โดยผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มจ่ายดอกเบี้ยเต็มจำนวนตามเงื่อนไขมาโดยตลอด ส่วนการที่ GL ขยายระยะเวลาชำระเงินให้กู้ยืมจาก 3 เดือนเป็น 3 ปีนั้น เนื่องจากเป็นนโยบายของบริษัทฯ ที่กำหนดการชำระเงินในระยะสั้นก่อนและเมื่อมีความมั่นใจในศักยภาพการชำระเงินของผู้กู้จึงจะขยายระยะเวลาให้ยาวขึ้น
ส่วนราคาหุ้นของ GL ที่ปรับลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมานั้น มีโอกาสที่บริษัทฯ จะเข้าซื้อหุ้นคืน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มผู้ถือหุ้นและนักลงทุน เนื่องจากปัจจุบัน GL มีสภาพคล่องของกระแสเงินสดอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอที่จะดำเนินการ