“อนุทิน”ยึดกติกาเปิดทางพรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล

2019-03-22 15:45:23

“อนุทิน”ยึดกติกาเปิดทางพรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล

Advertisement

“อนุทิน” ยัน ภท.ยึดกติกามารยาททางการเมือง พรรคอันดับ 1 ต้องจัดตั้งรัฐบาลก่อน ถ้ารวบรวมไม่ได้ก็เป็นพรรคอันดับ 2 ยันไม่เคยทำข้อตกลงกับใครก่อนเลือกตั้ง

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นายศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรค ร่วมกันแถลงถึงช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง แถลงข่าวถึงความพร้อมของพรรคในการเลือกตั้ง

นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ว่าเราได้รับการเลือกตั้งมาจำนวนเท่าใด สิ่งที่พรรคจะยึดถือ คือผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส. พรรคไม่ต้องการให้เกิดปัญหารัฐบาลเสียงข้างน้อย เพียงเพื่อขอให้ได้ผู้นำประเทศก่อน เราจะเคารพกติกามารยาททางการเมือง ยืนยันพรรคจะไม่นำประเทศไทยเข้าสู่ความขัดแย้ง รัฐบาลต้องมีเสถียรภาพ เพื่อแก้ปัญหาปากท้อง ต้องตั้งใจพัฒนาประเทศไทยให้ก้าวหน้า และผู้ที่ประกอบในรัฐบาลต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งชีวิต นี่คือจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยภายหลังการเลือกตั้ง

นายอนุทินกล่าวว่า ยืนยัน ไม่ได้จับมือหรือทำข้อตกลงกับใครหรือกลุ่มหรือพรรคการเมืองใดเพื่อกำหนดการเมืองหลังการเลือกตั้ง ไม่เคยทำ และไม่คิดจะทำ โดยหลังจากนี้จะขอสงวนท่าที ไม่พูดถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง จนกว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แล้วจึงค่อยกำหนดแนวทางรวมถึงแสดงท่าทีของพรรคอีกครั้ง ดังนั้น ขอให้เชื่อมั่นว่าจะไม่มีอิทธิพลใดๆมากำหนดพรรคได้ นอกจากเสียงของประชาชน ทั้งนี้ ตนในฐานะหัวหน้าพรรคภท. ขอวิงวอนให้ผู้มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ดำเนินการให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจพิเศษที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ซึ่งไม่ควรจะใช้ เพราะจะถึงการเลือกตั้งแล้ว

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐ มีจุดยืนโดยให้พรรคการเมืองต่างๆรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่ต้องให้พรรคที่ได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลก่อน ภูมิใจไทยมีความเห็นอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ถือเป็นความคิดของแต่ละพรรค โดยพรรคภูมิใจไทยจะรักษาขนมธรรมเนียมทางการเมืองให้ได้มากที่สุด ที่สำคัญภูมิใจไทยจะสนับสนุนผู้นำรัฐบาลที่มีความมั่นคง ไม่ใช่ว่าสนับสนุนเข้าไปแล้วทำงานไม่ได้

“พรรคอันดับหนึ่งต้องจัดตั้งรัฐบาลก่อนอยู่แล้ว ถ้ารวบรวมไม่ได้ก็เป็นพรรคอันดับสอง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วในประวัติศาสตร์ แต่หากพรรคภูมิใจไทยได้อันดับหนึ่ง ผมก็ต้องไปเดินรวบรวม และกราบทุกท่าน ที่สนับสนุนให้เราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อมาถึงอันดับหนึ่งได้แล้วก็ต้องพยายามจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ แต่ผมไม่เชื่อว่า หากใครได้อันดับสาม อันดับสี่ ยกตัวอย่างผม หากได้อันดับสี่ มาขอจัดรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าไม่มีใครเขายอมให้เป็น ผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วต้องดูผลการเลือกตั้งของทุกพรรคก่อน ซึ่งผมและคณะกรรมการบริหารพรรค เชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากในการตัดสินใจ ในการแปรเจตนารมณ์ของประชาชน ที่เลือกพรรคภูมิใจไทยเข้ามาเพื่อให้เราทำอะไร ซึ่งเราไม่มีทางสวนความต้องการของประชาชนแน่นอน” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าจะคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการประกาศผลส.ส.อย่างเป็นทางการ แสดงว่าปิดประตูเจรจาการจัดตั้งรัฐบาล หลังวันที่ 24 มี.ค.ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็คงเป็นเช่นนั้น เพราะยังไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร ต้องดูความชัดเจนทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกันรอบเดียวให้จบ ไม่ต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง

เมื่อถามว่า ส.ว.สรรหา ควรเลือกนายกฯอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า หากผลการเลือกตั้งออกมา แสดงให้เห็นว่าประชาชนต้องการอะไร คิดว่าส.ว.คงไม่สวนความคิดเห็นของประชาชน แต่หากเกิดเหตุการณ์ส.ว.ไม่โหวตตามเสียงของประชาชน ก็ถึงเวลาที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยต้องรักษาศักดิ์ศรีของการเป็นผู้แทน ต้องเอานายกฯตามกระบวนการมาก่อนให้ได้ แม้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นฝ่ายค้าน ก็จะโหวตสนับสนุนให้นายกฯมาจากสภาผู้แทนราษฎรก่อนเพื่อรักษาระบบ

ด้านนายศักดิ์สยามกล่าวว่า นับจากนี้ถึงวันเลือกตั้ง ภท.จะไม่จัดปราศรัยใหญ่อีก เพราะที่ผ่านมานับแต่มีพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)ให้มีการเลือกตั้ง เราได้พบปะพี่น้องประชาชนและนำเสนอนโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาปากท้องอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เรามีข้อห่วงใยเรื่องการปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่ง ภท.เคยทักท้วงไปยังกกต.ในเรื่องการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่อประชาชน ที่จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 2561 โดยพรรคตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้ กกต.ได้มีเอกสารแนะนำนโยบายพรรคและผู้สมัครแจกไปยังประชาชน ตนจึงขอให้สื่อมวลชนช่วยตรวจสอบว่า ในเอกสารนั้น ได้ระบุนโยบายตามที่พรรคการเมืองยื่นจดแจ้งไว้ต่อกกต.หรือไม่ เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น จะถือว่าขัดต่อกฎหมาย นอกจากนี้ พรรคยังเป็นห่วงเรื่องการเสนอนโยบายของพรรคการเมือง ซึ่งมีลักษณะประชานิยม ลดแลกแจกแถม และไม่มีการวิจัยศึกษาถึงผลกระทบต่อประชาชน เราไม่ต้องการให้ประเทศเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ จึงเรียกร้องให้กกต.ช่วยตรวจสอบนโยบายของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งด้วย ในส่วนจุดยืนทางการเมืองนั้น พรรคยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พรรคมีบุคลากรที่มีความสามารถและความพร้อมในการบริหารประเทศ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เราเสนอชื่อหัวหน้าพรรค คือนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว

“ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นอันดับ 1 นายกรัฐมนตรีต้องชื่ออนุทินเท่านั้น แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น เรายินดีให้พรรคที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นอันดับ 1 เป็นผู้ตั้งรัฐบาล อีกทั้งยืนยัน จะไม่ทำอะไรที่ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตย และเห็นว่าการที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่มีหลักการและเป้าหมายร่วมกันที่จะไม่ให้มีอำนาจนอกระบบเข้ามาแทรกแซงหรือครอบงำทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง ถือเป็นสิ่งที่ดี เราต้องการให้การเลือกตั้งครั้งนี้ดำเนินการตามกรอบกฎหมายและเกิดประโยชน์สูงสุด และในวันที่ 24 มีนาคม หวังว่าคนไทยจะไปใช้สิทธิกันให้มากที่สุด เพื่อแสดงถึงฉันทามติของประชาชนและกำหนดอนาคตประเทศไทย” นายศักดิ์สยาม กล่าว