“จตุพร”ชี้ "ลุงตู่"คือความไม่สงบ

2019-03-22 13:30:21

“จตุพร”ชี้ "ลุงตู่"คือความไม่สงบ

Advertisement

“จตุพร” จวก พปชร. ขึ้นป้าย “ เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” ชี้คนที่ไม่สงบคือ “บิ๊กตู่” เหตุจิตใจไม่สงบตลอดเวลา หวั่นเลือกตั้งซ้ำรอย ปี 2535

เมื่อวันที่ 22 มี.ค. พรรคเพื่อชาติ ลงพื้นที่เขตบางขุนเทียนหาเสียงโค้งสุดท้าย ใน “ภารกิจส่งประยุทธ์กลับบ้าน” นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงกรณี พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นป้าย “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” ว่า เป็นเหมือนการสร้างสถานการณ์น่ากังวล สอดคล้องกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ออกมาพูดก่อนหน้านี้ ว่าถ้าเลือกพรรคฝ่ายเพื่อ ก็จะต้องเจอกันที่ราชดำเนินอีกครั้ง จะเห็นได้ว่าพรรคการเมืองที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.สืบทอดอำนาจ ต่างแบ่งงานกันทำ โดยเฉพาะชูเรื่องความสงบ แต่ถ้าไม่สงบก็เกิดจากนายสุเทพ ด้วยนายสุเทพที่ใช้วิธีข่มขู่คนไทย ถ้าเลือกพรรคฝ่ายเพื่อ ก็คงต้องนัดหมายไปเจอกันที่ราชดำเนินอีก ทำให้ผู้คนวิตก ตนคิดว่าบรรยากาศแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น การเลือกตั้งควรเป็นบรรยากาศของการใช้สิทธิเสรีภาพกันอย่างเต็มที่ แต่ภาวะแบบนี้ ทำเหมือนว่าจะต้องเลือกฝ่ายสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น บ้านเมืองจึงจะเกิดความสงบ พรรคกองเชียร์ทั้งหลายก็สมทบด้วยว่า ถ้าไม่เลือกฝ่ายเขาอาจจะมีการยึดอำนาจ บรรยากาศแบบนี้เป็นหนทางที่เป็นปัญหาของชาติ


นายจตุพร กล่าวด้วยว่า วันนี้คิดว่าคนไม่สงบจริง คือ พล.อ.ประยุทธ์ต่างหาก โดยเฉพาะจิตใจไม่เคยสงบเลย แม้ว่าจะพยายามเสนอว่าจะเปลี่ยนบุคลิกตัวเองไม่ให้เป็นคนที่ขี้โมโห เป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนตลก ไม่ทราบเป็นครั้งที่ร้อยแล้วหรือยัง แล้วท้ายที่สุดก็ไม่เคยรักษาคำพูดได้เลย เปลี่ยนลุคตัวเองใหม่ แต่พอเจอคำถามสื่อมวลชนก็ทนไม่ได้เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นที่บอกว่าเลือกความสงบจบที่ลุงตู่ นั้นไม่ใช่ ลุงตู่คือความไม่สงบ ใจของลุงตู่เองนั่นแหละที่เป็นปัญหา



นายจตุพร กล่าวอีกว่า ตนมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า เงินกำหนดอนาคตของประเทศไม่ได้ เพราะฉะนั้นวันนี้การใช้เงินอย่างมโหฬารโดยไม่ต้องบอกว่าใคร ที่ใช้เงินมากผิดปกตินั้น มีกระทั่งการซื้อบัตรประชาชน ในหลายพื้นที่มาก ความลับไม่เคยมีในโลก มีแต่เพียงกกต.เท่านั้นที่ยังไม่ทราบข้อมูลอันนี้ การใช้เงินครั้งนี้รุนแรงกว่าการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 หลายเท่าและเป็นสัญญาณว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะนำไปสู่วิกฤตได้ ตนเชื่ออย่างนั้น อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่า ประวัติศาสตร์มันช่างใกล้เคียงกันเมื่อปี 2535 วันที่ 22 มี.ค. 2535 คือวันเลือกตั้ง ได้พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกฯแล้วนำไปสู่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬปี 2535 ส่วนในปี 2562 ขาดไป 2 วัน คือ เลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค. 2562 ตนคิดว่ากำลังจะเดินไปใน ทางเดียวกัน ถ้าไม่รู้จักคำว่าพอ เพราะประวัติศาสตร์มันก็ย้อนมาอย่างน่าแปลกประหลาดที่สุด คือวันที่ 22 มี.ค. 2535 ที่เรียกว่า 35/1 นั้น 24 มี.ค. 2562 มันจะเป็น 62/1หรือไม่ เพราะว่าการปลุกประชาชน และบังคับว่าถ้าไม่เลือกลุงตู่บ้านเมืองจะไม่สงบ ตนคิดว่าบรรยากาศบ้านเมืองมันดูแล้วอันตราย



ส่วนช่วงเย็นวันนี้ พรรคเพื่อชาติจัดปราศรัยใหญ่ ภายใต้ชื่อ "ภารกิจสุดท้าย ปลุกคนไทย หยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ" ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล เวิลด์ ลาดพร้าว กทม.