จากกรณีเหตุการณ์นาทีชีวิต เมื่อคุณพ่อของหนุ่ม "ก็อต อิทธิพัทธ์" หยุดหายใจเฉียบพลันกลางโรงหนังต้องหามตังส่งโรงพยาบาลด่วน จนกลายเป็นข่าวไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ล่าสุด เจอหนุ่มก็อตเลยสอบถามถึงเรื่องนี้ได้ความว่า
ต้องบอกตามตรงว่าอาการยังทรงๆ อยู่ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ก็หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ครับ ตอนแรกที่ทราบอาการคุณหมอก็คอยบอก อัพเดตอยู่ตลอด แต่ว่าเราเองก็ยังเชื่อในปาฏิหาริย์ ซึ่งจริงๆ เขาบอกว่าอาการคุณพ่อค่อนข้างหนักเลย
มีสัญญาณที่ดีบ้างไหม ?
ส่วนใหญ่เราไปเฝ้าแล้วเราเห็นเองมากกว่า ว่าคุณพ่อมีขยับเปลือกตาบ้าง มีน้ำตาไหลบ้าง ซึ่งตรงนี้เราไม่ทราบว่าเป็นสัญญาณที่ดี หรือเป็นระบบปกติของร่างกาย ยังตอบไม่ได้แน่ชัดว่าคุณพ่อดีขึ้นไหม
เราคาดหวังว่าพ่อจะฟื้นภายใน 1 สัปดาห์ ตอนนี้ 2 สัปดาห์แล้ว ?
ตอนแรกคิดแค่ว่า 3 วันพ่อคงฟื้น แต่จะดูแลไปเรื่อยๆ ตอนนี้ไม่ได้กำหนดว่า 2 สัปดาห์จะฟื้นไหม เดือนหนึ่งจะฟื้นไหม คงดูแลไปจนสุดทาง สุดท้ายถ้าผลลัพธ์จะออกมายังไง ก็คงยอมรับผลที่ตามมา
ตอนที่ก็อตบอกคุณพ่อมีปฏิกิริยารู้สึกยังไง ?
เวลาเห็นภาพนั้นค่อนข้างท้อ หดหู่ เห็นคุณพ่อจะคิดกับตัวเองตลอดว่าทำไมเราถึงทำอะไรไม่ได้เลย แต่พอมาคิดอีกที เราก็ดูแลเขาอย่างเต็มที่แล้ว สุดท้ายก็อยู่ที่คุณพ่อว่าจะสู้สุดทางมากแค่ไหน เวลาไปเยี่ยม เข้าไปหาเขา พ่อตื่นขึ้นมาสู้ๆ ทุกวันนี้เอาใจช่วย เยี่ยมพ่อเสร็จมีเวลาว่างก็ไปทำบุญให้เขา อยากให้เขาฟื้นมาเร็วๆ ผมก็ให้กำลังใจคุณแม่ คนที่หนักที่สุดน่าจะคุณแม่ ก็ให้กำลังใจเขา เดี๋ยวคุณพ่อก็ฟื้น อยู่กับหมอแล้ว
เราต้องตั้งสติทำงานต่อไป ?
จริงๆ ก็เศร้า แต่ว่าเราเองต้องก้าวต่อไป มีงานค้างต้องทำ มีความเศร้าแต่งานต้องทำ เรายังมีครอบครัวต้องดูแล แม่ น้อง”
คุณแม่เป็นยังไงบ้าง ?
อาการค่อนข้างหนักเหมือนกัน ดูแลเต็มที่ ไปทำงานก็โทร.หาตลอด เยี่ยมพ่อเป็นไงบ้าง อาการพ่อโอเคขึ้นไหม
ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง ?
เปลี่ยนมากไหม เปลี่ยนไม่เยอะในเรื่องการใช้ชีวิต แต่คนสำคัญในครอบครัวล้มป่วย มีการปรับตัวบ้าง ไม่ชิน เมื่อก่อนอยู่กัน 4 คน ไปไหนมาไหนทำงาน พ่อแม่ไปกองไปเฝ้า ตอนนี้แม่ก็ไม่ได้มา แม่ไปเฝ้าพ่อ ผมไปทำงานคนเดียวก็เหนื่อยหน่อย
เราจะสามารถพาคุณพ่อมาดูแลที่บ้านได้ตอนไหน ?
คุณหมอบอกว่าถ้าคุณพ่ออาการดีขึ้นก็จะให้กลับมาที่บ้าน แต่ตอนนี้คุณพ่อยังอาการทรงๆ ยังต้องอยู่ในมือคุณหมอ
มีอะไรต้องระวังในการรักษาคุณพ่อบ้าง ?
ตอนนี้ยังอาการทรงๆ หมอจะตรวจอย่างใกล้ชิด บอกไม่ได้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง คุณพ่อยังไม่ฟื้น ดูเป็นรายวัน เฝ้าอย่างใกล้ชิด
ก่อนจะเกิดเหตุการณ์นี้พ่อเป็นเสาหลักหรือก็อตเป็นเสาหลักอยู่แล้ว ?
ตั้งแต่ผมเริ่มทำงาน ก็บอกคุณพ่อไม่ต้องทำงาน ก็ 2 ปีแล้วที่คุณพ่อไม่ได้ทำงาน เราเองทำงานตลอด ถามว่ารู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ก็ไม่ได้มาก เราทำงานมาตั้งแต่ต้น เราดูแลครอบครัวมาตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ ก็ปีสองปีแล้ว พอพ่อป่วย เรื่องค่าใช้จ่ายเราก็ดู เพียงแต่ต้องโฟกัสมากขึ้นว่าต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง
หนักไหมเรื่องค่าใช้จ่าย ?
ส่วนใหญ่ก็เป็นเดือน หนักไหมก็ไม่หนัก ประหยัดเอา อยากให้คุณพ่อฟื้นกลับมาเหมือนเดิมมากกว่า เป็นความรู้สึกมากกว่าให้มันดีขึ้น
ต้องรับงานเยอะขึ้นไหม ?
ไม่ได้ขนาดนั้น เรามีงานที่ทำค้างไว้อยู่ แต่ถ้ามีงานมามากกว่าปกติก็พร้อมสู้
ต้องประหยัดขึ้นไหม ?
โดยปกติก็เป็นคนประหยัดอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ก็ประหยัดมากขึ้น เราอาจจะต้องคิดมากขึ้นว่าจะต้องใช้จ่ายอะไร เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นอีก
ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไปเลยไหม ?
ช่วงนี้ไม่ได้เจอใครเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ทำงานก็เหนื่อยมาก พักอย่างเดียว ไม่ได้ออกไปเจอใคร
ค่าใช้จ่ายในการรักษาพ่อ ?
ตอนแรกค่อนข้างสูง ไม่บอกจำนวนแต่สูงมาก ก็เป็นเรื่องค่อนข้างหนัก แต่โชคดีเหมือนคุณพ่อมีประกันของเขา เลยช่วยเหลือได้เยอะ
มีคนให้ความช่วยเหลือด้วยไหม ?
ตอนคุณพ่อเข้าโรงพยาบาลใหม่ๆ เข้าไอซียู มีคนในวงการหรือคนรู้จักเข้ามาช่วยเหลือเยอะแยะไปหมด ก็ดีใจที่มีผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ ไม่งั้นเราเองคนเดียวก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
คุณพ่อป่วยมานานแค่ไหนแล้ว ?
ตอนนี้ก็น่าจะสองสัปดาห์แล้ว
แต่กำลังใจดีใช่ไหม ?
กำลังใจดี ก็ได้กำลังใจจากแฟนๆ และคนรอบตัว พี่ๆ ผู้ใหญ่
