"จตุพร” แนะ “บิ๊กตู่”ดูคำพูด “ป๋าเปรม” ผมพอแล้ว

2019-03-21 11:20:04

"จตุพร” แนะ “บิ๊กตู่”ดูคำพูด “ป๋าเปรม” ผมพอแล้ว

Advertisement

“จตุพร” แนะ “บิ๊กตู่”กลับไปดูคำพูดสุดท้ายของ “ป๋าเปรม” ก่อนลงจากอำนาจที่ว่า “ผมพอแล้ว” บอก “สุเทพ” ให้ไปอ่านหนังสือธรรมะของท่านพุทธทาส “การเมืองบริสุทธิ์คือศีลธรรม การเมืองระยำคือการต่อสู้แย่งชิง” พร้อมเชิญชวนประชาชนเลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยถล่มทลาย ล้างบางเผด็จการ กังวลหากคะแนนก้ำกึ่งจะเกิดงูเห่าบ้านเมืองวิกฤต


เมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 มี.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อชาติ พร้อมด้วย ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ และสมาชิกพรรคลงพื้นที่ กทม. โดยเริ่มที่ตลาดห้วยขวาง ช่วยผู้สมัคร น.ส.สาวิตรี สาทสุทธิ ผู้สมัคร ส.ส. กทม.พรรคเพื่อชาติ เขต 5 ห้วยขวาง ดินแดง เบอร์ 14 หาเสียง


นายจตุพร ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินตลาดห้วยขวาง ว่า ตนเชื่อว่าภารกิจส่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับบ้าน ด้วยการเลือกพรรคเพื่อชาติ และฝ่ายประชาธิปไตย มีพรรคการเมืองเป็นจำนวนมาก ต่างก็ขานรับในภารกิจอันนี้ ในแต่ละฝ่ายก็ประกาศชัดเจน ในภารกิจส่งพล.อ.ประยุทธ์กลับบ้าน ด้วยการเลือกฝั่งประชาธิปไตย แต่อย่างที่ตนบอก ว่าการต่อสู้กับการสืบทอดอำนาจนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่าย ทั้งกลไกในรัฐธรรมนูญ ทั้งวุฒิสภาและเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่ไม่จำเป็นต้องเคารพมติพรรค ซึ่งพูดได้ว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ส่งเสริมให้เกิดงูเห่าขึ้นในพรรคการเมือง ตนเชื่อว่าถ้าฝ่ายประชาธิปไตยไม่สามารถชนะได้อย่างเด็ดขาด งูเห่าจะเกิดขึ้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จะเป็นความเลวร้าย จะเป็นชนวนนำไปสู่วิกฤติที่ใหญ่ที่สุดที่ประเทศไทยเคยเกิดขึ้นมา


นายจตุพร กล่าวต่อว่า ในกรณีที่สมาชิกของพรรครวมพลังประชาชาติไทยได้ออกมาพูดว่า ถ้าเลือกฝ่ายประชาธิปไตยจะเกิดปฏิวัติขึ้นมาอีก เกิดรัฐประหารอีก ก็สอดคล้องกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้พูดว่า ถ้าเลือกพล.อ.ประยุทธ์บ้านเมืองจะสงบ แต่ถ้าเลือกอีกฝ่ายหนึ่ง บ้านเมืองไม่สงบอย่างแน่นอน ซึ่งความไม่สงบจะเกิดขึ้นกับซีกฝ่ายของนายสุเทพ เพราะฉะนั้นก็สอดคล้องต้องกันกับการข่มขู่หรือบังคับให้ประชาชนเลือกพล.อ.ประยุทธ์ แล้วการปฏิวัติรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้น ตนนายจตุพร ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยได้ข้ามความขลาดกลัวต่อเผด็จการ ใช้ความกล้าครั้งเดียว ในวันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค.นี้ ด้วยการล้างบางเผด็จการชุดนี้ เหมือนที่เคยล้างบางเผด็จการ รสช.เมื่อปี 2535/2 ซึ่งพี่น้องประชาชนได้สำแดงมาแล้ว เผด็จการมาที่ใดประชาชนเดือดร้อนที่นั่น เพราะฉะนั้นตนมิได้กลัว 250 เสียง ส.ว.รวมกระทั่งถ้าประชาชนเลือกฝ่ายประชาธิปไตย อย่างถล่มทลาย งูเห่าก็เกิดขึ้นยาก แต่ถ้าชนะกันเด็ดขาดเรื่องนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ากำกึ่งเมื่อไหร่จะยิ่งกว่าที่ทำการเสาวภาซะอีก


นายจตุพร กล่าวอีกว่า นายสุเทพมีสิทธิอะไรในการบังคับประชาชน ถ้าประชาชนเลือกฝั่งนายสุเทพ ซึ่งก็เพ้อ ว่าจะได้ 126 เสียงไปให้พล.อ.ประยุทธ์ บ้านเมืองก็จะสงบเพราะนายสุเทพได้ประโยชน์ นายสุเทพก็จะไม่เป่านกหวีดไล่ แต่ถ้านายสุเทพไม่ได้ประโยชน์ นายสุเทพจะต้องออกมาเคลื่อนไหว ขับไล่พวกที่ไม่ใช่พวกของนายสุเทพ ตนว่าวันนี้เราต้องใจกว้างๆ นายสุเทพเองควรจะกลับไปอ่านหนังสือของท่านพุทธทาสบ้าง โดยเฉพาะคำว่า การเมืองบริสุทธิ์คือศีลธรรม การเมืองระยำคือการต่อสู้แย่งชิง




นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีมีคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมาก ว่า คนทั่วไปอาจจะสบายใจเรื่องการที่มีคนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก แต่ตนเป็นคนที่ผ่านเหตุการณ์มาหลายเหตุการณ์ ต้องยอมรับว่าตนไม่สบายใจ เพราะตนไม่เชื่อว่าการดูแลรักษาหีบเลือกตั้ง มันจะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้งล่วงหน้า กับวันเลือกตั้งจริงมันย้อนแย้งกัน มันขัดแย้งกันไม่ตรงกัน ซึ่งปกติแล้วมันควรจะเป็นทิศทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นตนอยากจะบอกว่า กกต.ต้องแสดงความโปร่งใสอย่างมาก โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่เจ็บปวดที่สุดในการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า นั่นคือความห่วงใยและที่สำคัญที่สุด


นายจตุพร ยังกล่าวถึงกรณีคลิปของพรรคเพื่อชาติที่มีการปล่อยมาวันนี้ว่า เราต้องการบอกพล.อ.ประยุทธ์ ให้จำคำพูดสุดท้ายของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษว่า “ผมพอแล้ว” หลังจากคำว่าผมพอแล้ว ประเทศไทยก็ยกย่องได้เป็นรัฐบุรุษ แต่ว่าถ้าผมไม่รู้จักพอ ปลายทางคือเผด็จการทรราช เพราะว่าอีก 4 ปี อายุของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ก็จะมากกว่ารัฐบาลพล.อ.เปรมแล้ว และถ้าต่ออีก 4 ปี เพราะวุฒิสภาให้โหวตได้ 5 ปี ก็จะมากกว่าจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้ว และก็จะไปจ่อ จอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ตนเองเห็นว่าประเทศไทยเป็นเส้นบางๆมาก วันนี้ถ้าเขาคิดว่าเขาชนะร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็ไม่มีใครออกมาคำรามว่า ถ้าไม่เลือกพล.อ.ประยุทธ์ บ้านเมืองจะไม่สงบจะเกิดการรัฐประหาร ตนยังเชื่อว่า หลายปัญหายังรออยู่ เป็นการเลือกตั้งที่อึดอัด วิตกกังวลทั้งก่อนและหลัง หากก้ำกึ่ง ก็อาจเกิดปรากฏการณ์งูเห่า หากชนะขาดก็อาจนำไปสู่การ โมฆะ ก็ได้

จากนั้น พบปะพี่น้องประชาชน ณ ศูนย์ประสานงาน เขตคลองเตย กทม. ช่วยผู้สมัคร เขต 4 คลองเตย นายบุญเลิศ นุ้ยเมือง เบอร์ 1 ต่อด้วยโดยสารเครื่องบิน ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน ณ อ.ท่าแพ อ.ละงู จ.สตูล สิ้นสุดด้วยการปราศรัยใหญ่ ณ เทศบาลตำบลกำแพง อ.ละงู จ.สตูล ช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อชาติ จ.สตูล นาย ฟารูก พีรูซอะลี