อย.เผยผู้ป่วย 205 รายแจ้งครอบครองกัญชา

2019-03-20 11:55:12

อย.เผยผู้ป่วย 205 รายแจ้งครอบครองกัญชา

Advertisement

อย.เผยยอดโทรสายด่วนกัญชา 5,014 ราย ผู้ป่วยแจ้งครอบครอง 205 ราย

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้เปิดบริการให้สอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับกัญชา ภายหลังจากที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวเนื่องกับการนิรโทษและครอบครองกัญชา จำนวน 3 ฉบับ ได้มีผลบังคับใช้ ระหว่างวันที่ 11-15 มี.ค.2562 มีผู้สอบถามเข้ามาที่ อย. โดยสอบถามเข้ามายังช่องทางสายด่วน อย. 1556 จำนวน 1,277 ราย หมายเลขโทรศัพท์ของกองควบคุมวัตถุเสพติด อย. 71 ราย และที่ Counter Service 13 ราย คำถามที่พบส่วนใหญ่ยังคงสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการปลูก รายละเอียดของการนิรโทษ การนำเข้า และการส่งออก และมีผู้ป่วยมาแจ้งครอบครองกัญชาจำนวน 120 ราย สำหรับตัวเลขสะสมตั้งแต่วันที่เริ่มเปิดรับแจ้ง 27 ก.พ.2562 ถึงปัจจุบันมีผู้โทรสอบถามเรื่องกัญชาเข้ามาที่ อย. จำนวน 5,014 ราย และแจ้งครอบครองกัญชาแล้ว 205 ราย

เลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่ามีการอนุญาตให้ปลูกเสพกัญชาเสรี นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจาก ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ซึ่งกำหนดให้ผู้ป่วยที่มีการครอบครองกัญชาไว้เพื่อรักษาโรคเฉพาะตัว ก่อนที่กฎหมายฉบับนี้มีผลใช้บังคับให้ผู้ป่วยมาแจ้งการครอบครองต่อเจ้าหน้าที่ แล้วจะถือว่าไม่มีความผิดตามกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่ใช่เพิ่งปลูกหรือหามาใช้ภายหลังที่กฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังต้องไปตรวจสอบเฝ้าระวัง เพื่อให้มีการปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและเมื่อครบกำหนด 90 วันแล้ว ผู้ป่วยจะครอบครองต้นกัญชาไม่ได้ กรณีผู้ป่วยที่แจ้งการครอบครองสำหรับใช้เกิน 90 วัน และเมื่อครบกำหนด 90 วันแล้ว หากยังไม่ได้รับการรักษาและได้รับยาในระบบที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถใช้ยาดังกล่าวตามที่แจ้งการครอบครองไว้ก่อนได้ ดังนั้นจึงขอให้เข้าใจถูกต้องตรงกันว่า กฎหมายไม่มีการอนุญาตให้ปลูก/เสพกัญชาเสรี

นพ.ธเรศ กล่าวด้วยว่า การเสพกัญชามีอันตรายต่อร่างกาย โดยเฉพาะในเด็กวัยรุ่นกัญชาส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมองทำให้ความจำบกพร่อง การเสพกัญชาจึงควรจำกัดให้ใช้ทางการแพทย์เพื่อการรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคบางชนิดเท่านั้น และใช้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากกัญชามีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท มีผลข้างเคียง เช่น ประสาทหลอน หวาดระแวง และความบกพร่องเรื่องความจำ อย่างไรก็ตามการแจ้งครอบครองกัญชา เป็นการดำเนินการตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ขอให้แจ้งข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อประโยชน์ในการติดตามตรวจสอบและเป็นประโยชน์ต่อผู้แจ้งเอง กรณีแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ จะมีความผิดตามกฎหมายด้วย ผู้ป่วยบางรายเข้าใจว่าใบอนุญาตที่ อย. ออกให้สำหรับการครอบครองกัญชาเป็นการอนุญาตให้ปลูกกัญชาได้ด้วย และมีการนำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด อย. จึงขอย้ำว่า ใบอนุญาตที่ อย. ออกให้ใช้ในวัตถุประสงค์การ “ครอบครอง” กัญชาเพื่อประโยชน์ในทางการแพทย์หรือการรักษาพยาบาลเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ “ปลูก” กัญชาแต่อย่างใด การที่นำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ผู้เผยแพร่อาจถูกดำเนินการตามกฎหมายได้ จึงขอให้ผู้ครอบครองกัญชาระมัดระวัง ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎระเบียบด้วย