สปป.ลาวปล่อยตัวหนุ่มไทยแล้ว

2019-03-20 11:15:13

สปป.ลาวปล่อยตัวหนุ่มไทยแล้ว

Advertisement

หนุ่มไทยถูกกักตัวใน สปป.ลาวได้รับการปล่อยตัวแล้ว เจ้าตัวขอโทษไม่เข้าใจกฎหมู่บ้าน เผยเป็นการเข้าใจผิดกับเจ้าหน้าที่ด้านกงสุล ตม. ย้ำต้องศึกษาก่อนไปเที่ยว


เมื่อช่วงค่ำ วันที่ 19 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 นครพนม–คำม่วน นายกิตติศักดิ์ หล่อปฏิมากร รองกงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว พร้อมด้วย นายรังสรรค์ คัมภีรานนท์ รอง ผวจ.นครพนม พ.ต.อ.แดนไทย แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนมและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้นำตัว นายเอกลักษณ์ ตะโกเนียม อายุ 37 ปี ชาว จ.ชลบุรี อาชีพฟรีแลนซ์ศิลปินอินดี้ กลับมายังด่านพรมแดนไทยลาว นครพนม–คำม่วน หลังมีการไปเจรจาขอรับตัวกลับจากทางการลาว เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน กรณีถูกควบคุมตัวไว้ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา จนกระทั่งนายเอกลักษณ์ได้โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือมายังทางเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยและทางญาติให้ติดต่อช่วยเหลือ

จนกระทั่งวันที่ 19 มี.ค. ทางด้าน นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม ได้มีการหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้ง ตม.นครพนม ฝ่ายปกครอง ประสานไปยังกุสุลใหญ่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเจรจาช่วยเหลือ ทำให้ทางการลาวอนุญาตปล่อยตัวและรับตัวกลับมาอย่างปลอดภัย


นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาการกักตัวของทางการลาวครั้งนี้ จากการตรวจสอบและหารือกับทางเจ้าหน้าที่ลาวทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางคืนวันที่ 18 มี.ค. ทางนายเอกลักษณ์ได้เดินทางข้ามไปยังเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 3 นครพนม–คำม่วน เพื่อไปทำธุระและพาชาวลาวที่รู้จักกันเข้าไปเอาสัมภาระที่บ้านโคกป่าทอน เมืองท่าแขวง แขวงคำม่วน สปป.ลาว แต่ในการเข้าไปในหมู่บ้านไม่ได้มีการแจ้งหรือขอนุญาติทางเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของหมู่บ้าน จนเกิดความเข้าใจผิดระหว่างเจ้าหน้าที่เกรงว่าจะเข้าไปกระทำผิดในพื้นที่ จึงมีการควบคุมตัวไว้สอบสวน แต่ไม่ได้ตั้งข้อหา จนกระทั่งนายเอกลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ ในที่สุดทางการไทยได้เข้าไปตรวจสอบเจรจา จนทางการลาวยินดีที่จะปล่อยตัวโดยไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่เป็นการกักตัวไว้ตรวจสอบ ตามกฎระเบียบของหน่วยงานความมั่นคง เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ได้มีการกระทำผิดจึงได้ปล่อยตัวกลับมา ซึ่งถือเป็นระเบียบการปฏิบัติของหมู่บ้านที่เข้มงวด แต่คนที่เดินทางเข้าไปอาจไม่เข้าใจ จนเกิดการเข้าใจผิด ซึ่งต้องขอขอบคุณทางการลาว ที่ให้ความเมตตาช่วยเหลือ โดยไม่ได้มีปัญหาด้านอื่นและไม่ได้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ฝากไปยังประชาชน นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยัง สปป.ลาว จะต้องศึกษากฎหมาย ระเบียบการปฏิบัติ จะได้ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายของทางการลาว

นายเอกลักษณ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเรื่องได้เดินทางมาเยี่ยมแม่ที่ รพ.นครพนม เนื่องจากในช่วง 3 วันที่ผ่านมาแม่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ได้เดินทางมาทำบุญที่ แขวงคำม่วน สปป.ลาว เพราะรู้จักมักคุ้นกับชาวลาวที่ไปทำงานต่างประเทศ จึงมีการไปมาหาสู่มาท่องเที่ยวทำบุญ ส่วนครั้งนี้แม่และคณะเช่ารถมาจากเวียงจันทน์ เพื่อมาทำบุญที่แขวงคำม่วน จากนั้นแม่เจ็บป่วยมีปัญหาทำร้ายร่างกายจากทะเลาะวิวาทส่วนตัว แต่ไม่ทราบรายละเอียด จึงข้ามมาตรวจรักษาที่ รพ.นครพนม พอทราบข่าวจึงเดินทางมาดูแลแม่และชักชวนคนรู้จักที่ข้ามมากับแม่ ขับรถย้อนไปเอาสัมภาระในหมู่บ้าน แต่เป็นเวลากลางคืนประมาณเกือบ 20.00 พอถึงหมู่บ้าน ยอมรับไม่ได้ประสานหรือแจ้งใคร ทำให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงมาตรวจสอบ พบว่าตนนั่งในรถเป็นเหตุให้เข้าใจผิดว่า จะเข้ามากระทำผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวไว้ตรวจสอบ ตนตกใจจึงโพสต์ขอความช่วยเหลือ ซึ่งยอมรับว่าเคยเข้ามาเที่ยว แต่ไม่เคยเข้ามากลางคืน จนเกิดความเข้าใจผิด ตนยอมรับว่าผิดและกราบขอโทษ ขอบคุณทางการลาว รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาจมีบางคำที่ดูรุนแรง อย่างไรก็ตามตนยอมรับผิดว่าไม่เข้าใจกฎระเบียบหมู่บ้านและขอกราบขอบคุณทุกฝ่ายที่ดูแลช่วยเหลือ


พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม กล่าวว่า ในการเดินทางข้ามประเทศไม่ว่าประเทศไหนสำคัญที่สุดจะต้องมีการศึกษาขั้นตอนการเดินทางรวมถึงระเบียบข้อกฎหมาย เพราะแต่ละประเทศมีกฎหมายระเบียบวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง เพราะหากทำผิดอาจถูกดำเนินคดี ซึ่งทาง ตม.มีเจ้าหน้าที่ดูแลแนะนำทุกจุด ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนการช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหาต้องทำตามขั้นตอน เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ