หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าเตรียมเสนอ “เสือดาว-เสือดำ” จากสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าสงวนอีกสถานะ เชื่อตัดสินคดีล่าเสือดำคนไทยสนใจเป็นพิเศษ
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ทำการพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย(รป.) นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย แถลงข่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกอีก 3 คน ในคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยมีซากเสือดำอยู่ในจุดดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2561 และศาลจังหวัดทองผาภูมิ นัดตัดสินคดีในวันที่ 19 มี.ค. นี้ ว่า ตนจะผลักดันต่อกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ให้เสือดำกับเสือดาวจากสัตว์ป่าคุ้มครองให้เพิ่มเป็นสัตว์ป่าสงวนด้วยอีกสถานะ รวมทั้งจะเพิ่มเสือโคร่งอินโดไชนิสต์เข้าไปด้วย ถือเป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของพรรคที่จะต้องส่งเรื่องไปตามระบบราชการไปยังกระทรวง เข้าสู่การพิจารณาของกรรมการไปให้ ครม.อนุมัติ มีเกณฑ์พิจารณาคือ เป็นสัตว์ที่มีจำนวนน้อยมาก อยู่ในความสนใจของผู้คนมีความพิเศษ โดยเฉพาะเสือดำนั้นเป็นสัตว์ที่หาดูได้ยากกว่าเสือดาว เพราะกว่าจะได้เสือดำมา เสือดาว 2 ตัวต้องผสมพันธุ์กันในรุ่นที่ 2 เป็นต้นไปถึงจะได้เสือดำ หรือแม้กระทั่งเสือดำผสมพันธุ์กันเอง บางคลอกก็ไม่ใช่ว่าจะได้ลูกออกมาเป็นเสือดำเสมอไป อาจจะออกมาเป็นเสือดาวก็ได้ ซึ่งลักษณะพิเศษเช่นนี้ถือว่าเป็นสัตว์ที่หายาก ต้องสงวนไว้ คือให้มีสถานะมากกว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง คือต้องเป็นสัตว์สงวนด้วย ทั้งเสือดาวและเสือดำ
“เรื่องเสือดำนี้เป็นจุดเริ่มต้นให้คนทั้งประเทศรักสัตว์ ให้ความสำคัญมากกว่าชีวิตมนุษย์ และช่วยสัตว์ป่าอีกจำนวนมากที่จะโดนล่าในอนาคต คนก็จะไม่ล่าเพื่อเกมกีฬาอีกต่อไป หลังจากมีเรื่องเสือดำนี้ การล่าสัตว์เพื่อเกมกีฬาโดยผู้มีอันจะกินลดลงไปมาก หากเสือดำพูดได้ คงพูดว่าขอบคุณที่ได้สละชีวิตตัวเองไปช่วยสัตว์อื่น สำหรับการตัดสินคดีในวันที่ 19 มี.ค. ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล เราไม่อาจก้าวล่วงได้ แต่เชื่อว่าคนไทยทุกคนคงจะสนใจเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ”นายดำรงค์ กล่าว