"อุตตม"ชี้จะแก้ รธน. ปี 60 ต้องทำประชามติ ระบุยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดเรื่องนี้ ระบุนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทำได้จริง แต่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน อาจประกาศเป็นวาระแห่งชาติก็ได้
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี 5 แกนนำพรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ อนาคตใหม่ ชาติพัฒนา และเศรษฐกิจใหม่ จับมือกันเป็นพันธะสัญญาว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 บนเวทีดีเบตที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า หากประชาชนเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้สมควรได้รับการแก้ไข พรรคพลังประชารัฐก็พร้อมที่จะพิจารณา แต่เวลานี้เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องมาบอกว่าจะปรับเปลี่ยนแก้ไข หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องทำประชามติ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ผ่านความเห็นชอบจากประชามติมาแล้ว
ส่วนที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) จะชูให้ประชาชนเลือกเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว เพื่อป้องกันการสืบทอดอำนาจ คสช.ในช่วงโค้งสุดท้ายการหาเสียงนั้น นายอุตตม กล่าวว่า เป็นวาทกรรมที่พูดให้ได้ยินมาโดยตลอด เพื่อการแข่งขันทางการเมือง ขอถามว่า พรรคพลังประชารัฐสืบทอดอำนาจอย่างไร เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเลืออกตั้งตามขั้นตอน ดังนั้นประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง และก็ไม่เห็นว่าจะเป็นการสืบทอดอำนาจ ขึ้นอยู่กับว่าพรรคการเมืองใดจะได้รับคะแนนสูงสุด จึงจะมีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล วาทกรรมทางการเมืองนี้ ขอให้ประชาชนตัดสินเองว่ามีเหตุและผลหรือไม่
นายอุตตม กล่าวถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อ 17 มี.ค.ที่ผ่านมาซึ่งมีเสียงวิจารณ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พอสมควรว่า ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ทำหน้าที่ของตัวเอง ให้อยู่ในกรอบ เพื่อให้การเลือกตั้งสามารถเดินหน้าไปได้
นายอุตตม ยังกล่าวถึงกรณีนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทของพรรคว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทราบเรื่องอยู่แล้ว โดยเราได้ชี้แจงถึงที่มาของนโยบาย ที่ทำให้ทุกภาคส่วน มาช่วยกันปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจให้ก้าวทันโลก ซึ่งเป็นเหมือนการลงทุน เพื่อพัฒนาคนไทย เสริมทักษะให้แรงงานมีคุณภาพมากขึ้น จึงสมควร ที่จะเพิ่มรายได้ให้แรงงานมากขึ้น หลายพรรคการเมืองได้มีการเสนอค่าแรงขึ้นต่ำเช่นเดียวกัน แต่เราจะทำเป็นขั้นตอน ไม่ได้ทำทันที ยืนยันว่า นโยบายนี้ทำได้จริง แต่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ซึ่งอาจจะประกาศเป็นวาระแห่งชาติเลยก็ได้