“ชัชชาติ”ชูตั๋วร่วมแก้วิกฤตคมนาคมคนกรุง

2019-03-18 14:20:02

“ชัชชาติ”ชูตั๋วร่วมแก้วิกฤตคมนาคมคนกรุง

Advertisement

“ชัชชาติ”นั่งรถเมล์ - รถไฟฟ้า สำรวจปัญหาคนเมือง ผุดไอเดียแก้วิกฤตคมนาคมคนกรุงใช้ตั๋วร่วม ลดค่าใช้จ่าย เชื่อมต่อรถไฟฟ้า


เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมผู้สมัคร ส.ส.กทม. เดินทางโดยรถเมล์จากหน้ากรมทหารราบที่11 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต ก่อนสิ้นสุดจุดสุดท้ายที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม เพื่อสำรวจปัญหาการจราจรของคนกรุง


นายชัชชาติ ได้ถ่ายรรวมกับ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทยและบอกว่านี่คือทีมอเวนเจอร์ กทม. และ กทม.ลุย พร้อมได้แวะสอบถามเรื่องการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ การใช้บัตรสวัสดิการในการขึ้นขนส่งสาธารณะ และเรื่องเศรษฐกิจปัญหาปากท้องกับประชาชนตลอดทาง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจ และขอถ่ายภาพคู่กับนายชัชชาติจำนวนมาก ระหว่างขึ้นรถเมล์ประชาชนที่อยู่บนรถบอกกับนายชัชชาติว่า อยากให้เป็นนายกฯจังเลย อยากให้ได้ อยากให้ได้ประชาธิปไตยคืนมาจังเลย เบื่อแล้วเผด็จการ


สำหรับการแก้ปัญหาด้านการขนส่งนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่พบว่ามีการก่อสร้างหลายโครงการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อค่าโดยสารที่สูงขึ้น และมีเจ้าของในหลายโครงการ อาทิ บางโครงการเป็นของ กทม. บางโครงการเป็นของ รฟม. อีกทั้งการที่ประชาขนต้องเดินทางการหลายต่อก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญ ซึ่งนโยบายเพื่อไทย มีแนวคิดที่จะรวมให้มีการจัดการเพียงหนึ่งเดียว อย่างไรก็ตามก็เป็นเรื่องยากเพราะมีการเปิดสัมปทานโครงการ ซึ่งพรรคเพื่อไทยต้องศึกษาในจุดนี้ เพื่อหาทางออกในควบคุมค่าใช้จ่าย ให้เหมาะสมต่อประชาชนที่สุด


นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้อีกหนึ่งปัญหาสำคัญคือปัญหารถเมล์ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของคนกรุง เปรียบเสมือนเส้นเลือดฝอยที่จะเชื่อมโยงทุกพื้นที่ แต่ปัจจุบันมีปัญหาซึ่งจุดนี้ต้องเร่งรัด อย่างน้อยต้องมีรถเมล์ 4,000 คัน ซึ่งจะเป็นรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรถเมล์ต้องมี 2 ขนาด แยกเป็นขนาดปกติและขนาดเล็ก เพื่อจะใช้ในพื้นที่ให้เหมาะสม และต้องเปลี่ยนแปลงให้มีการใช้ตั๋วร่วมโดยใช้ใบเดียวเพื่อไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า ซึ่งรถเมล์ปัจจุบันมีประมาณ 214 สาย และหลายสายวิ่งทับเส้นทางกัน เช่น ที่ลาดพร้าวประมาณ 20 สาย อนาคตถ้ามีตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ เราสามารถขึ้นเมล์ต่ออีกสายโดยไม่คิดค่าโดยสารเพิ่ม และกำหนดราคาไม่เกิน 15-20 บาท หัวใจสำคัญคือ ปัจจุบันประชาชนไปอยู่ชานเมืองเยอะขึ้น เพราะค่าที่ดินในตัวเมืองแพง ซึ่งจะทำให้เสียทั้งเวลาเสียงทั้งเงิน ก็จะเป็นภาระหนักต่อไป ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องเร่งดำเนินการตรงนี้ถ้าเราเข้ามาเป็นรัฐ