จับ! แก๊งร้อยเสียง อ้างเป็นคนใหญ่ “หลอกตุ๋นเงิน”

2019-03-18 13:20:31

จับ! แก๊งร้อยเสียง อ้างเป็นคนใหญ่ “หลอกตุ๋นเงิน”

Advertisement

เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม 2 ผู้ต้องหา “แก๊งร้อยเสียง” อ้างตัวเป็นรองผู้การฯ วิ่งเต้นคดีให้นักโทษ ส่วนอีกรายหมอฟันถูกหลอกตุ๋นเงิน อ้างเป็นนายอำเภอ

วันที่ 18 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รองผบก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ได้จับกุมตัว นายสุทธิพงษ์ ยิ้มพ่วงสินธุ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/4 ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ 85/2562 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2562 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ (เงิน)โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น" และนายเมธาสิทธิ ลาภจิตร์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 571/1 หมู่ 10 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ 86/2562 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2562 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ (เงิน) โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น" พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่ใส่วันก่อเหตุ บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.61 ทางชุดสืบสวนภาค 5 ได้มีการจับกุมแก๊งพนันออนไลน์ ได้ผู้ต้องหาจำนวน 6 คน ที่สภ.เมืองเชียงใหม่ ต่อมาได้มีชายอ้างตัวเป็นรองผู้การจังหวัดเชียงใหม่ โทรมาสอบถามคดีกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ และขอคุยกับกลุ่มผู้ต้องหา โดยชายดังกล่าวอ้างว่าจะวิ่งเต้นคดีให้รอดคุก ทำให้กลุ่มผู้ต้องหาหลงเชื่อโอนเงินค่าวิ่งเต้นคดีจำนวน 50,000 บาทให้กับชายดังกล่าว




ส่วนอีกคดีที่ จ.เชียงรายหมอฟัน ชื่อดังถูกชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นนายอำเภอเมืองเชียงราย แจ้งว่า คลีนิกหมอฟันดังกล่าวยังไม่ได้รับใบอนุญาต แต่จะไม่จับกุมพร้อมจะออกใบอนุญาตประกอบการให้แต่ขอเงินจำนวน 90,000 บาทซึ่งหมอฟันดังกล่าวก็หลงเชื่อโอนเงินไปให้ โดยทั้งสองคดีเมื่อกลุ่มผู้เสียหายโอนเงินไปให้ก็กลับติดต่ออะไรไม่ได้เงียบหายไป ทำให้เชื่อว่าถูกหลอกจึงแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ทางชุดสืบสวนภาค 5 จึงรับทั้งสองคดีมาดำเนินการก็พบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีเดียวกัน จึงตรวจสอบก็พบว่าผู้ต้องหาคือนายสุทธิพงษ์ และนายเมธาสิทธิ มากดเงินในบัญชีดังกล่าวไปใช้จ่ายจึงออกหมายจับและจับกุมตัวไว้ได้ที่กรุงเทพฯ

พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นแก๊งร้อยเสียง โดยจากการสืบสวนแก๊งดังกล่าวทำงานกันเป็นทีมงาน 5-6 คนแบ่งหน้าที่กันทำโดยทั้งหมดจะทำการตรวจสอบข่าวที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ แล้วจะทำทีเลียนเสียงของผู้หลักผู้ใหญ่ ไปหลอกลวงว่าสามารถวิ่งเต้นคดีให้ได้ จบคดีที่สภ. ทันที ทำให้ผู้ต้องหาหลงเชื่อโอนเงินไปให้ แล้วก็ถูกหลอก ซึ่งที่เราจับกุมตัวมาผู้ต้องหาทั้งสองคนอดีตเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของกรุงเทพฯ และรับสารภาพแค่ว่าเป็นคนกดเงินของแก๊งดังกล่าว แต่ไม่ยอมให้การซัดทอดใครเลย โดยบัญชีที่เรายึดได้พบว่ามีเงินหมุนเวียนเดือนละ 1 ล้านบาท แสดงว่าแก๊งดังกล่าวหลอกลวงต้มตุ๋นคนมาเป็นจำนวนมาก จึงอยากฝากเตือนประชาชน การวิ่งเต้นคดีไม่มีจริง อย่าหลงเชื่อคำพูดหลอกลวงทางโทรศัพท์ง่ายๆ ไม่งั้นจะตกเป็นเหยื่อได้ ซึ่งตนจะได้สั่งการสืบสวนขยายผลตามจับกุมเครือข่ายของแก๊งดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป