เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมไฟป่าพรุบาเจาะ เพิ่มชุดเดินเท้าต่อสายเข้าฉีดน้ำต่อเนื่อง ขณะที่ 10 เปอร์เซ็นต์ ยังคงมีควันไฟครุกรุ่น หลังอากาศร้อนจัด
จากกรณีที่เกิดไฟไหม้ป่าพรุบาเจาะ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมาในพื้นที่เขตรอยต่อ 3 อำเภอ 3 ตำบล 6 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ที่ 3 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส หมู่ที่ 6 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ และหมู่ที่ 2,4,6 ตำบลลูโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ได้รับความเสียหาย 15 ไร่ โดยเจ้าหน้าที่ป้องกันสาธารณภัย จ.นราธิวาส อบต.อส.อพปร ชรบ ชาวบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จำนวนกว่า 50 คน กระจายกำลังบูรณาการและใช้รถดับเพลิงและเครื่องฉีดน้ำฉีดน้ำดับไฟ พร้อมนำเครื่องสูบน้ำหาบหาม โดยมีเจ้าหน้าที่ระดมสูบน้ำดับเพลิงโดยรอบและฉีดน้ำให้ชุ่มชื้นเพื่อป้องกันการลุกไหม้ เนื่องจากพื้นที่ไฟไหม้ รถดับเพลิงไม่สามารถเข้าถึงในจุดที่มีไฟไหม้อยู่ใต้ดินอีกทั้งน้ำในคูน้ำที่ขุดเตรียมไว้เริ่มลดน้อยลงเนื่องจากสภาพอากาศร้อน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักเพราะต้องเดินลึกเข้าไปในพื้นที่ห่างจากจุดเดินประมาณ 100 เมตร
โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟต้องแบกน้ำใส่ถังเดินลึกเข้าไปในป่าเพื่อฉีดน้ำลงพื้นตามจุดที่มีควันไฟพวงพุ่งเพื่อเติมความชื่นให้กับพื้นดินและกองวัชพืชบนผิวดิน ส่วนอีกชุดได้ยกหามเครื่องสูบน้ำเข้าไปดูดน้ำตามคูต่างๆที่ยังพอมีน้ำขังพร้อมต่อสายยางและเดินเข้าไประดมฉีดน้ำในพื้นที่ที่ลึกมากขึ้น เนื่องจากตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมาเกิดมีควันไฟพวยพุ่งขึ้นมาอีกระลอก และเป็นการป้องกันไฟไหม้ใต้ดินและลามไปยังพื้นที่ป่าสงวนที่มีเนื้อที่ 3,000 ไร่ พร้อมขุดลอกเปิดพื้นที่ป้องกันไฟบนพื้นดิน และเตรียมนำรถแบคโฮขุดทำเป็นร่องคูน้ำอีกครั้งหนึ่งเมื่อควันไฟสงบลง
ส่วนอีกทางหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดดับไฟร่วมได้ประสานไปยัง อบต.ใกล้เคียง เพื่อขอสนับสนุนรถดับเพลิงบรรทุกน้ำ เพื่อขนย้ายน้ำเข้าไปในพื้นที่ที่สายยางส่งน้ำไปไม่ถึง โดยใช้ถังน้ำฉีดปั้มแบกขึ้นหลังพร้อมเดินเข้าไปตามจุดต่างๆทำเป็นแนวกั้นไฟป้องกันไฟไหม้ลามบนพื้นดินเป็นทางยางตามแนวเขตรอยต่อพื้นที่ที่ยังไม่เกิดไฟไหม้ เพื่อป้องกันเขตป่าสงวนอีกด้วย โดยล่าสุดยังคงมีพื้นที่ที่มีกลุ่มควันพวยพุ่งอยู่ในพื้นที่ ประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น