กลุ่มผู้ประท้วงที่สวมเสื้อกั๊กสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ รวมพลประท้วงรัฐบาลฝรั่งเศสของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ครั้งใหญ่อีกรอบ ในเมืองหลวงกรุงปารีส เมื่อวันเสาร์ ซึ่งครั้งนี้ผู้ประท้วงก่อความรุนแรงทุบทำลายและจุดไฟเผาอาคารร้านค้า และบุกเข้าฉกฉวยสิ่งของ บนถนนสายหลักฌองส์เซลีเซ่
ตำรวจปราบจลาจลใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และแก๊สน้ำตาขับไล่ และจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงกว่า 120 คน
การประท้วงรายสัปดาห์ทุกวันเสาร์ เริ่มต้นเมื่อ 4 เดือนก่อน ต่อต้านการขึ้นภาษีน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ต่อมาเงื่อนไขข้อเรียกร้องการประท้วงได้ขยายออกไปหลายประเด็น
ตำรวจเผยว่า การประท้วงในวันเสาร์ล่าสุด ในกรุงปารีส มีผู้เข้าร่วมประมาณ 10,000 คน ซึ่งมากขึ้นเมื่อเทียบกับหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นยังมีรายงาน ประชาชนแนวร่วมเสื้อกั๊กเหลืองอีกประมาณ 4,000 คน เดินขบวนประท้วงในหลายเมืองทั่วฝรั่งเศสในวันเดียวกันนี้
และในวันเสาร์ มีประชาชนอีกหลายหมื่นคนส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนนักศึกษา ชุมนุมประท้วงแยกต่างหากในอีกส่วนของกรุงปารีส โดยเป็นการประท้วงปัญหาภาวะโลกร้อน ตามเสียงเรียกร้องของ น.ส.เกรตา ธุนเบิร์ก เด็กสาวนักเคลื่อนไหวชาวสวีเดน ที่กำลังปลุกกระแสเด็กนักเรียนและเยาวชนทั่วโลก ให้ผละการเรียนออกมาประท้วงต่อต้านโลกร้อน.