“รังสิตโพล”ฟันธง “บิ๊กตู่”เป็นนายกฯอีกสมัย

2019-03-15 13:55:31

“รังสิตโพล”ฟันธง “บิ๊กตู่”เป็นนายกฯอีกสมัย

Advertisement

“รังสิตโพล” เผยผลสำรวจโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง “บิ๊กตู่”มีคะแนนนิยมสูงสุดอับดับ 1 ส่วน พปชร.มีคะแนน ส.ส.เขตเป็นอันดับ 1 และ 2 อยู่หลายเขต ฟันธง “บิ๊กตู่”เป็นนายกรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เปิดเผยผลสำรวจรังสิตโพลตั้งแต่ครั้งที่ 1-6 (1 พ.ค.2561-5 มี.ค.2562) ในระยะเวลากว่า 10 เดือน ก่อนการเลือกตั้ง ในวันที่ 24 มี.ค. โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 350 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ จากผลสำรวจเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2562 พบว่า ประชาชนตั้งใจจะไปเลือกตั้ง 81.95% ไม่ไปเลือกตั้ง 3.53% ยังไม่ตัดสินใจ 9.15% และไม่ออกความเห็น 5.37% โดยประมาณจำนวนผู้ออกไปใช้สิทธิอาจอยู่ระหว่าง 75-80% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51.52 ล้านคน จากการสำรวจคะแนนนิยมของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกพรรคการเมือง พบว่า ผู้ที่มีคะแนนนิยมสูงสุดคือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 2.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยพบว่า คะแนนนิยมส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ สูงกว่าคู่แข่งทุกคนทั้งก่อนและหลังการประกาศตัวเป็นผู้สมัครนายกรัฐมนตรีตลอด 10 เดือนเศษที่ผ่านมา ส่วนในทางสถิติสำหรับผลสำรวจคะแนนนิยมของนายอนุทินและนายธนาธร ถือว่าอยู่ในระดับที่เท่ากัน


รศ.ดร.สังศิต กล่าวว่า ในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งมีสัญญาณแสดงให้เห็นว่าผลการเลือกตั้งกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญ จากท่าทีของนายอภิสิทธิ์ที่ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และไม่เอาเพื่อไทย ทำให้แฟนพันธุ์แท้ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เคยสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และ กปปส. ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใน กทม.และภาคใต้ รู้สึกผิดหวัง อาจตัดสินใจไปเลือกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมพลังประชาชาติไทย ( รปช.) แทน เช่นเดียวกับท่าทีของนายธนาธร ที่ประกาศว่าจะพาคุณทักษิณกลับมารื้อฟื้นคดี ทำให้คนชนชั้นกลางที่เคยสนับสนุนไม่ต้องการความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ที่กล่าวมาข้างต้นอาจส่งผลทำให้คะแนนของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พปชร. ดีขึ้น

รศ.ดร.สังศิต กล่าวอีกว่า สำหรับการหาเสียงในช่วง 10 วันสุดท้าย พปชร. จะมีความได้เปรียบกว่าทุกพรรค เพราะผลโพล พบว่า 1. ในเขต กทม. พปชร.ได้คะแนนอันดับ 1 อยู่ 5 เขต และอันดับ 2 อีก 18 เขต 2.ในภาคกลาง พปชร. ได้คะแนนอันดับ 1 อยู่ 36 เขต และอันดับ 2 อีก 40 เขต 3. ในภาคเหนือ พปชร.ได้คะแนนอันดับ 1 อยู่ 20 เขต และอันดับ 2 อยู่ 29 เขต 4.ภาคอีสาน พปชร.มีคะแนนอันดับ 1 อยู่ 27 เขตและอันดับ 2 อยู่ 75 เขต 5.ภาคใต้ พปชร. มีคะแนนอันดับ 1 อยู่ 6 เขต และ อันดับ 2 อีก 38 เขต รวม พปชร.ได้คะแนนอันดับที่ 2 ทั่วประเทศอยู่ประมาณ 200 เขต ส่วนเพื่อไทยมีคะแนนอันดับ 2 รวม 63 เขต ปชป.มีคะแนนอันดับ 2 รวม 44 เขต ทั้งนี้จากการประเมินผลสำรวจดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีโอกาศค่อนข้างสูงที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ที่มีเสียงสนับสนุนจาก พปชร. ระหว่าง 110-130 ที่นั่ง ในขณะที่เพื่อไทยและ ปชป.จะเป็นฝ่ายค้าน