ทีมนักวิทยาศาสตร์พบหลักฐาน การปะทุระเบิดครั้งมโหฬารของกัมมันตรังสีจากดวงอาทิตย์ ที่พุ่งมากระทบโลกเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน และปรากฏการณ์ดังกล่าวมีนัยสำคัญต่อโลกในปัจจุบัน เนื่องจากพายุสุริยะสามารถขัดขวางเทคโนโลยีสมัยใหม่
นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานในแกนน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ที่แสดงให้เห็นว่าโลกถูกอนุภาคโปรตอนสุริยะซัดกระหน่ำ เมื่อ 660 ปีก่อนคริสต์ศักราช
พายุสุริยะครั้งนั้นมีพลังมากกว่า 10 เท่า ของพายุสุริยะทุกครั้งนับตั้งแต่โลกเริ่มมีอุปกรณ์บันทึกที่ทันสมัย
ดวงอาทิตย์ระเบิดลุกจ้าเป็นระยะ ปลดปล่อยอนุภาคประจุไฟฟ้า และกัมมันตรังสีอื่น ๆ ที่สามารถเดินทางมาสู่โลกมนุษย์ อนุภาคปลดปล่อยจากดวงอาทิตย์ที่พบในแกนน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ พายุโปรตอน หรือ เอสพีอี (solar proton event :SPE)
ในยุคปัจจุบัน เมื่ออนุภาคพลังงานสูงเหล่านี้ชนปะทะกับโลก พวกมันสามารถทำลายกลไกอิเล็กทรอนิกส์ในดาวเทียม ที่มนุษย์พึ่งพาสำหรับการสื่อสาร และบริการต่าง ๆ เช่น ระบบกำหนดตำแหน่งบนโลก หรือ จีพีเอส
กัมมันตรังสีจากดวงอาทิตย์ยังอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์อวกาศ รวมทั้งผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินโดยสารพาณิชย์ ที่บินในระดับสูงมาก และใกล้กับขั้วโลก โดยเฉพาะเส้นทางบินข้ามฟากมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างทวีปอเมริกาเหนือ-ใต้กับยุโรป ที่จะได้รับกัมมันตรังสีปริมาณมากกว่า แต่กรณีนี้ยังขึ้นอยู่กับตัวแปรอีกจำนวนมาก