เมื่อความอิจฉาเพื่อนรักเป็นเรื่องธรรมชาติ

2017-07-06 11:25:21

เมื่อความอิจฉาเพื่อนรักเป็นเรื่องธรรมชาติ

Advertisement

ไม่นานมานี้ มีกระทู้เว็บไซต์ดังซึ่งเจ้าของกระทู้ได้บรรยายความสัมพันธ์และบทสนทนาระหว่างเธอและเพื่อนสาว แล้วตั้งข้อสงสัยว่า นี่คือความอิจฉาหรือไม่ และบรรดาคอมเมนต์ต่างก็ฟันธงว่า ‘เขาอิจฉาคุณ’ …ที่จริงแล้ว ความรู้สึกอิจฉาริษยาเพื่อนรักนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ หลายคนเคยถูกอิจฉาริษยาอย่างเงียบๆ หรือ...ไม่เงียบแบบกรณีข้างต้น แต่หากเป็นคนที่รู้สึกอิจฉาบ้าง คุณจะทำอย่างไร...ไม่ให้กลายเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
ก่อนอื่นมาหาสาเหตุของความอิจฉากัน…หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า ชีวิตช่างไม่ยุติธรรมเมื่อคุณเกิดและเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกับเพื่อนทุกประการ แต่วันหนึ่ง เพื่อนรักของคุณได้ชีวิตใหม่ พบเจอสิ่งดีๆ มากมาย แต่คุณยังอยู่ที่เดิม แล้วนั่งคร่ำครวญว่า ทำไมเพื่อนถึงได้ในสิ่งดีๆ ที่เราไม่เคยได้ แม้เราจะมีชีวิตเหมือนอย่างเพื่อนไม่ได้ แต่เราสามารถทำชีวิตของเราให้ดีและประสบความสำเร็จได้ในแบบที่เราต้องการด้วยวิธีเหล่านี้...

ภาพ rnl / Shutterstock.com


1. สังเกตสิ่งที่เราไม่เคยอิจฉาเพื่อน นี่คือวิธีเบื้องต้นสำหรับคนที่มีไฟอิจฉาคุกรุ่น คุณจะได้รู้ว่า ชีวิตเราก็มีเรื่องดีๆ เหมือนกัน นอกจากนี้ ไม่มีใครไม่มีเรื่องลำบาก...เมื่อทุกคนต่างมีมุมลำบากใจและลำบากกาย แต่เขาอาจไม่เคยเล่าให้คุณฟัง ลองถามตัวเองว่า หากคุณได้รับรู้ถึงความลำบาก จะยังอิจฉาและอยากมีชีวิตแบบเขาอยู่ไหม?
2. มองให้เห็นความกลัว ในที่นี้ไม่ใช่สารพัดสิ่งที่คุณร้องยี้เมื่อได้เห็นนะ แต่หมายถึง ความกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิต เช่น กลัวไม่มีเงินใช้ กลัวไม่มีใครรัก...ลองนึกถึงความกลัวเหล่านี้ แล้วพยายามหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากสิ่งที่คุณไม่ปรารถนา แทนที่จะอิจฉาคนอื่น แล้วอาจหาทางทำร้าย หรือทำให้คนรอบข้างได้เห็นไฟอิจฉาในตัวคุณ



ภาพ Ravi_sunlight / Shutterstock.com


3. ลิสต์สิ่งที่อยากทำในวันรุ่งขึ้น นี่คือวิธีเปลี่ยนความอิจฉามาเป็นความพยายามออกมาจากกรอบชีวิตที่ทำให้เราไม่ก้าวไปไหน ในฉบับภาคปฏิบัติ...ลองลิสต์สิ่งที่เราอยากทำและจะทำให้สำเร็จในอนาคต เชื่อว่าหลายคนล้วนมีความฝันและเป้าหมายในชีวิตเป็นของตัวเองกันอยู่แล้ว อย่าให้ความอิจฉามาทำให้เสียเวลาทำสิ่งที่มีค่า!
เมื่อมีความมุ่งมั่นและทำชีวิตให้สำเร็จได้...ชีวิตนี้ก็จะไม่มีเวลาอิจฉาใครเลย


 
เรียบเรียงข้อมูลจาก lifehack.org