บุกทลายผับดัง! กลางเมืองสระบุรี

2019-02-28 09:28:55

บุกทลายผับดัง!  กลางเมืองสระบุรี

Advertisement

ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายผับชื่อดังกลางเมืองสระบุรี พบยาเสพติดเกลื่อนร้าน นักเที่ยวอัพยา ฉี่สีม่วง 53 คน

วันที่ 28 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 01.40 น. ศูนย์อำนวยการประสานกำกับติดตามการปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558(ศอ.กต.) โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นำโดยนายแสงประทีป โกมลบุตร ผู้ตรวจราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับ สืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง นายนฤนาท เมืองแสน ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสระบุรี ทหารกองทัพภาคที่ 1 กรมควบคุมโรค กรมสรรพสามิต และสำนักงาน ปปส.นำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมผับดังกลางเมืองสระบุรี ตั้งอยู่ ถ.มิตรภาพ ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี พบเป็นสถานบริการ ที่ตั้งอยู่นอก โซนนิ่ง มีนายกมล อรุณสันติโรจน์ อายุ 74 ปี เป็นผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่าผับดังกล่าว มีการอนุญาตหรือยินยอมให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ ซึ่งเป็นแหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น ปล่อยปละละเลยให้ผู้เข้าใช้บริการเสพสารเสพติดภายในร้าน โดยมีเอเย่นต์ค้ายาเสพติดแฝงตัวอยู่ภายในร้าน และเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง หน.คสช.ที่ 22/2558




นอกจากนี้ มีผู้ปกครองเด็ก ร้องเรียนผ่านเพจปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองด้วยว่า ลูกสาวไปเที่ยวผับกลับมาบ้าน เจอยาเคในกระเป๋ากางเกง ผับดังกล่าวปล่อยให้เด็กเข้าใช้บริการ มั่วสุมเสพยา ทุกคืน

จากข้อมูลการสืบสวนพบว่า สถานบริการแห่งนี้ มักเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดเป็นประจำ ปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการซื้อ ขาย เสพยาเสพติดภายในสถานบริการ เช่น ในห้องน้ำภายในสถานบริการ โดยเมื่อผู้ใช้บริการเสพยาเสร็จเรียบร้อย พนักงานทำความสะอาดจะรีบทำความสะอาดและกำจัดอุปกรณ์การเสพที่ตกอยู่ตามพื้นทิ้งทันที เพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานว่าสถานบริการรู้เห็นกับผู้ใช้บริการ



ทั้งนี้ ก่อนเข้าจับกุม เจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง (ชุดสายลับ) ได้แฝงตัวเป็นนักเที่ยวเข้าทำการสืบสวน เมื่อเกินเวลาตี 1 ซึ่งเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายของสถานบริการดังกล่าวไปแล้วครึ่งชั่วโมง ก็พบว่าสถานบริการยังคงไม่มีทีท่าที่จะเช็คบิลปิดทำการแต่อย่างใด นักเที่ยวยังคงดื่มกินและเต้นกันอย่างเมามัน นอกจากนี้ยังพบว่า ร้านยังคงจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปกติ แม้ว่าจะเลยเวลาเปิดทำการตามกฎหมายไปแล้วก็ตาม สายลับจึงให้สัญญาณแก่ชุดจับกุมเข้าดำเนินการตรวจสอบจับกุม เมื่อกำลังของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางมาถึง พบว่าสถานบริการดังกล่าวยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีนักเที่ยวจำนวนกว่า 300 คน ดื่มกิน อยู่ภายในร้าน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงแสดงตัวขอตรวจสอบ โดยให้ปิดเสียงดนตรี และเปิดไฟภายในร้าน ทำให้นักเที่ยวต่างแตกตื่น นักเที่ยวที่พกยาเสพติด ต่างก็โยนยาเสพติด และอุปกรณ์การเสพ ลงพื้นเกลื่อนกลาด มีทั้ง ยาไอซ์ และยาเคตามีน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ตรวจค้นตัวนักเที่ยวและพนักงานร้าน พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด สิ่งเทียมอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 11 มม. จำนวน 2 นัด ยาเสพติด ยาไอซ์ และยาเค เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนักเที่ยวแยกชายหญิง เพื่อตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ ผลการตรวจสอบพบว่า นักเที่ยวที่มีปัสสาวะเป็นสีม่วง จำนวน 53 คน เป็นชาย 29 คน เป็นหญิง 24 คน พบเยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการจำนวน 35 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 14 คน โดยมีอายุต่ำสุดเพียง 16 ปี เท่านั้น และพบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 23 คน



เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้แจ้งข้อหาแก่ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ คือ1.เปิดสถานบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด3.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานบริการ4.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 6.ไม่จัดทำบัตรประวัติพนักงานให้เป็นไปตามกฎกระทรวง7.ยินยอม หรือปล่อยปละละเลยให้มีการนำอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการ8.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้ไม่มีเอกสารราชการซึ่งมีภาพถ่ายและระบุอายุเข้าไปในสถานบริการ9.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และ10. จำหน่ายสุราให้กับเด็ก

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผอ.ส่วนกำกับสืบสวนและปราบปราม กรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองจะกวดขัน จับกุม ปราบปราม สถานบริการที่ผิดกฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการสถานบริการว่า ให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยมีหน้าที่ต้องระมัดระวังไม่ให้มีเด็กเข้าไปใช้บริการ เปิดทำการในเวลาที่กฎหมายกำหนด ไม่จำหน่ายสุราเกินเวลา และเรื่องยาเสพติด ซึ่งหลังจากนี้ นายอำเภอเมืองสระบุรี จะได้รายงานให้ ผวจ.สระบุรี มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตสถานบริการแห่งนี้ ตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ต่อไป