“อภิสิทธิ์”เสียดาย “บิ๊กตู่”เมินดีเบต ไม่อยากให้สร้างค่านิยมที่ผิด ยันการดีเบตไม่ใช่แข่งประดิดประดอยคำ
เมื่อวันที่ 27 ก.พ.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายเกียรติ สิทธีอมร ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ตลาดซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 10 (เขต 6 พญาไท ราชเทวี จตุจักร (เฉพาะแขวงจตุจักรและแขวงจอมพล)
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ปฏิเสธการดีเบตเพราะไม่อยากประดิดประดอยคำพูดกับนักการเมืองว่า เป็นสิทธิของท่านจะมาร่วมหรือไม่มาร่วม แต่ตนก็เสียดายโอกาสที่ประชาชนจะได้เปรียบเทียบ และไม่อยากให้สร้างค่านิยมที่ผิด เพราะการมาประชันวิสัยทัศน์เพื่อประโยชน์ให้ประชาชนได้เห็นแง่มุม ในการอาสาตัวเข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งการดีเบตไม่มีการมาแข่งประดิดประดอยคำ เพราะมีหลายเรื่องที่อยากแลกเปลี่ยน ทั้งเรื่องนโยบาย และจุดยืนทางการเมือง เพราะเรื่องเหล่านี้จะมีผลต่อการบริหารประเทศในอนาคต ซึ่งประชาชนมีสิทธิที่จะรับรู้ รับทราบ และไม่อยากให้เป็นบรรทัดฐาน
เมื่อถามว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ สื่อสารฝ่ายเดียวจะทำให้มีความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าคนฟังหรือเปล่า ส่วนรายการคืนความสุขจะต้องเลิกหรือไม่นั้น ไม่ขอพูดอะไรเพิ่มเพราะดูแล้วก็เห็นแนวทางว่าท่านเป็นอย่างไร ซึ่งก็เป็นห่วง เพราะส่วนใหญ่พอมาแนวนี้ต่อไปก็จะไม่ไปสภาฯอีก
เมื่อถามถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา ว่า ตนอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. พูดอย่างที่พวกเราพูดว่าเมื่อ ส.ว. เข้ามาแล้ว ตามรัฐธรรมนูญ คือ ตัวแทนปวงชนชาวไทย ทำอย่างไรถึงจะเคารพเจตนารมณ์ของปวงชนชาวไทยที่แสดงออกผ่านการเลือกตั้ง แต่การสรรหา ส.ว.อย่างไรก็เป็นอำนาจของ คสช. อยู่แล้วแยกกันไม่ออกเพราะรัฐธรรมนูญเขียนมาอย่างนั้นก็ต้องปฏิบัติกันไป แต่สิ่งสำคัญกว่าคือคนที่ได้รับการคัดเลือกเข้ามาแล้วทำหน้าที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยตามเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญจริงแค่ไหน เมื่อถามว่าจะเชื่อมั่นได้อย่างไรเพราะได้รับเลือกมาจากคนที่มีอำนาจในปัจจุบัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่เลือกถ้ามีนโยบายว่าให้คำนึงถึงเสียงของประชาชนก็จะดีที่สุด