นานๆ จะควงคู่มาออกงานสักครั้งสำหรับครอบครัวของ "กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ ชี" และ "บี้-ธรรศภาคย์ ชี" หลังหนุ่มบี้ต้องไปลุยงานที่ประเทศจีนเป็นหลัก ล่าสุด เจอทั้งสองในงานเปิดคาเฟ่และแฟล็กชิพสโตร์ ORGANIKA RIVIERE งานนี้เลยขออัพเดตเรื่องราวต่างๆพร้อมถามถึงแพลนการมีลูกคนที่ 2 ได้ความว่า
ไปโรงเรียนล่าสุดเป็นยังไงบ้าง ?
กุ๊บกิ๊บ : ยังร้องไห้อยู่ฟิวคิดถึงแม่ แต่ก็อยากไปโรงเรียน พอเดินเข้าไปในห้องก็หยุดร้องไห้ เหมือนเป็นไบโพล่าร์สับสนในตัวเอง แต่เขาก็เข้าใจว่าเด็กทุกคนต้องไปโรงเรียน แล้วเขาก็เลือกเองที่จะไปโรงเรียน เขาคงกำลังต่อสู้กับตัวเองอยู่ว่าเขาคิดถึงแม่ แต่เขาก็อยากจะไปสนุกที่โรงเรียนด้วย ตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้กำลังจะคิดแผนใหม่ให้พ่อไปส่งเพราะมีคนมาบอกว่าให้ลองเปลี่ยนคนไปส่งบ้างให้เป็นคนที่เขาไม่ค่อยติด
มีกลับมาเล่าอะไรให้เราฟังไหม ?
กุ๊บกิ๊บ : เล่าค่ะ เขาก็จะมาบอกว่าครูสอนอะไรบ้างเขาทำอะไรบ้าง
อยากส่งเสริมในด้านภาษาด้วยไหม ?
กุ๊บกิ๊บ : เราน่าจะเน้นภาษาให้เขาในเวลานี้ หนึ่งเขาต้องพูดจีนให้ได้เพราะเขาจะพูดกับปู่กับย่าไม่รู้เรื่อง ส่วนภาษาอังกฤษเขาชอบอยู่แล้ว ไทยต้องได้อยู่แล้ว แล้วเขาก็ยังมีภาษาที่ชอบอีกหลายภาษา แต่เราก็ปล่อยให้เขาเท่าที่เขาอยากจะได้ เรื่องเรียนเสริมเราจะไม่บังคับ
ตอนนี้มีเสริมอะไรอีกบ้าง ?
กุ๊บกิ๊บ : มีดนตรี เพราะเห็นเขาชอบการแสดงออกร้องเพลง
คุณพ่อก็สอนภาษาจีนด้วยตัวเอง ?
บี้ : ก็คุยจีนกับเขา
รู้สึกยังไงบ้างที่ลูกสื่อสารกับเรารู้เรื่อง ?
บี้ : ก็ดีใจนะ เพราะช่วงที่บี้อยู่จีนก็รู้สึกผิดที่ไม่ได้คุยจีนกับเขาเลย ตอนนี้เราอยู่กับเขาทั้งวันก็ได้ชดเชยช่วงที่เราไม่ได้คุยกับเขาบ่อยๆ ตอนนี้เขาก็พูดภาษาจีนได้เยอะขึ้น แล้วก็กล้าที่จะพูดเองก่อน ก็รู้สึกดีที่เขาได้ถนัดภาษาจีน
การฝึกภาษาตั้งแต่เด็กมีผลไหม ?
กุ๊บกิ๊บ : มีผลค่ะ หลายคนก็บอกทำไมต้องส่งลูกเรียนอินเตอร์ตั้งแต่เด็ก ต้องบอกว่าครอบครัวเราจำเป็นเพราะไม่รู้ว่าในอนาคตข้างหน้าเราจะต้องย้ายไปจีนหรือเปล่า หรือประเทศอื่นหรือเปล่าเพราะการงานบี้ยังไม่แน่นอนว่าจะอยู่ที่ไหน เราก็ต้องเตรียมตัวให้ลูกให้เตรียมพร้อมตลอด เผื่อวันนึงเราต้องย้ายเขาจะได้ไม่ลำบาก เราก็เลยพยายามใส่ภาษาให้เขาเต็มที่เท่าที่เขาจะได้ แล้วเด็กช่วงนี้จำภาษาได้เยอะกว่าเราที่เป็นผู้ใหญ่อีก จำได้เจ็ดแปดภาษาเลยแล้วก็แยกได้เร็วมาก กิ๊บว่าก็ส่งเสริมไป
ตอนนี้น้องได้กี่ภาษาแล้ว ?
กุ๊บกิ๊บ : ถ้ารู้เรื่องเลยจริงๆ ก็สามภาษา หลังๆ เริ่มมีสเปนกับเกาหลีเข้ามา นางคงจะดูจากยูทูบมา ซึ่งกิ๊บว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเด็กเดี๋ยวนี้ฉลาด เด็กสมัยนี้พูดจีนกับอังกฤษได้คือเบสิกมาก ทุกคนควรพูดได้ อยู่ที่พ่อแม่จะใส่ใจ อย่างเรื่องแผนการเรียนเราจะมอง ณ ปัจจุบันก่อนปีนี้คืออยู่ไทย เพราะเพิ่งซื้อบ้านที่ไทย แต่ปีต่อๆ ไปก็เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา บ้านเรามูฟได้ตลอดเวลา ลูกเรายังเล็ก ไม่ได้ซีเรียสมาก
แพลนที่จะซื้อบ้านที่ประเทศจีนยังมีอยู่ไหม ?
บี้ : มีคุยบ้าง แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะเราตัดสินใจซื้อบ้านที่ไทยแล้วก็คงอยู่ที่ไทยก่อน
เราขอเขาให้มาอยู่กับเรายาวๆ ไหม ?
กุ๊บกิ๊บ : ช่วงนี้ก็ไม่ได้เป็นเชิงขอหรอก เขาเพิ่งถ่าย 5 เรื่องติดกันแล้วเขาป่วย
บี้ : ผมขอบริษัท ขอเบรกซักสองเดือน แล้วก็กำลังดูบทใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้ลอง
ช่วงที่เราหายไปในตอนที่ลูกกำลังโตเป็นยังไงบ้าง?
บี้ : ก็คิดถึงมาก
กุ๊บกิ๊บ : ก็ร้องไห้ไง บอกไปสิ
บี้ : เวลาเฟซไทม์กับลูกเขาจะแสดงออกว่าเขาคิดถึงเรา เราก็จะคิดถึงเขามากๆ
แล้วงานที่ประเทศจีนยังไงต่อ ?
บี้ : ขอชาร์จพลังให้เต็มที่อีกไม่กี่เดือนก็จะกลับไปทำงานที่จีนแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเมื่อไหร่ แต่ไปครั้งหนึ่งก็ต้องมากกว่าสองเดือนในการถ่ายละครเรื่องหนึ่ง
เราสามารถขอบริษัทได้ ?
บี้ : บริษัทนี้เราคุยได้ตลอด เขาก็เข้าใจว่าเราเหนื่อย วันหยุดไม่ค่อยมี เขาจะมีให้เซ็นวันหยุดจริงจังมาก
เรามองอนาคตการโกอินเตอร์ของเรายังไงบ้าง ?
บี้ : ก็ลุยต่อยาวๆ จะพยายามสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองมากขึ้นทุกวัน ที่เมืองจีน
แพลนลูกคนที่สองต้องพักก่อนไหม ?
กุ๊บกิ๊บ : เราก็คุยกันตลอด แต่ก็มีก้างขวางคอตลอด เปาเป่าแทรกกลางตลอด ไม่สามารถทำอะไรได้เลย คือเรานอนด้วยกัน แล้วก็อยากให้บี้โฟกัสเรื่องงานนิดหนึ่ง อาจจะเป็นปีหน้าค่อยปล่อย เพราะเราอยากมีแล้ว ให้บี้ช่วยดูได้ด้วย ไม่งั้นมีไปก็ไม่มีความหมาย
บี้ : อย่างตอนเปาอยู่ในท้องบี้ก็ยังอยู่กับเขา โตมาก็ช่วยเลี้ยง แต่ถ้ามีคนที่สองแล้วบี้ต้องมาถ่ายงานที่จีนตลอดเราก็ต้องคิดกันอีกที
เป่าเปาอยากมีน้องไหม ?
กุ๊บกิ๊บ : อยากมี เดี๋ยวเอาหมามาเป็นน้อง เดี๋ยวเอาตุ๊กตามาเป็นน้อง แล้วก็มีมาจับท้องแม่ว่าหม่ามี้มีเบบี๋หรือยัง ก็เลยบอกเขาไปว่าถ้ามีแล้วจะบอก เขาถามทุกวัน เขาชอบ
