“สุวิทย์”ไม่หวั่น 2 พรรคผูกขาด กทม. ถามที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง

2019-02-26 16:10:32

“สุวิทย์”ไม่หวั่น 2 พรรคผูกขาด กทม. ถามที่ผ่านมาทำอะไรบ้าง

Advertisement

"สุวิทย์"ช่วยผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐหาเสียงหวังแจ้งเกิด 30 เขต มั่นใจคัดเพชรเม็ดงามสู้ศึก พร้อมนโยบายที่ตอบโจทย์ไม่กังวล 2 พรรคผูกขาด ถามกลับที่ผ่านมาทำอะไรให้คน กทม. บ้าง

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ช่วย น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 6 ราชเทวี พญาไทจตุจักร(แขวงจตุจักรและจอมพล) หาเสียงกับพี่น้องประชาชน พ่อค้าแม่ค้า พนักงานออฟฟิต บริเวณตึกพหลโยธินเพลส ซอยสายลม 9 บีทีเอสอารีย์ และตลาดซอยอารีย์ เพื่อขอเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ อาสารับใช้พี่น้องประชาชน รับฟังทุกปัญหา ร่วมพัฒนาแก้ไขชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น เพื่อเติบโตแบบยั่งยืนไปพร้อมกัน โดย น.ส.ภาดาท์ ขอเสนอ “อารีย์ โมเดล” พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีขึ้น พัฒนาสิ่งแวดล้อมด้วยการเพิ่มอากาศดีจากการปลูกต้นไม้ 50 เขต 50 สวน แก้ปัญหาทางเท้าให้ประชาชนเดินได้สะดวก พร้อมยอมรับว่าในพื้นที่ตนเองเป็นมวยรอง แต่ก็จะทำให้เต็มที่


นายสุวิทย์ กล่าวว่า การลงพื้นที่วันนี้ เพื่อพบปะคน กทม.และดูว่าจะทำอย่างไรให้ กทม.เป็นเมืองน่าอยู่ จึงเสนอคนรุ่นใหม่ให้อาสาเข้ามาทำหน้าที่ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ชั้นใน ที่มีปัญหามลพิษ อย่างฝุ่น PM2.5 ซึ่ง น.ส.ภาดาท์ ผู้สมัครเขตนี้ของพรรค เป็นผู้มีประสบการณ์และมีความรู้ความสามารถด้านสิ่งแวดล้อมโดยตรง มั่นใจว่าจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา คิดนโยบาย ตอบโจทย์คน กทม.


นายสุวิทย์ ให้สัมภาษณ์ประเด็นที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้อง ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ร่วมประชันวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ว่า ไม่ขอแสดงความเห็นเพราะต้องรอความชัดเจนจากทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ส่วนกรณีที่พื้นที่ กทม.ผูกขาดด้วย 2 พรรคการเมืองใหญ่ พรรคพลังประชารัฐในฐานะพรรคใหม่ กังวลหรือไม่นั้น นายสุวิทย์ กล่าวว่า อยากให้มองย้อนไปว่า ในอดีตที่ผ่านมา 2 พรรคการเมืองเหล่านั้น ทำอะไรให้ กทม. บ้าง ทั้งที่ กทม. ควรได้รับการพัฒนาที่ดีขึ้นมากกว่านี้ ดังนั้น ควรให้โอกาส พรรคใหม่อย่างเรา ได้เข้ามาแก้ปัญหา และพัฒนาให้กทม. เป็นเมืองหน้าอยู่ เป็นเมืองระดับโลก มาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย ซึ่งมั่นใจว่า พรรคจะตอบโจทย์คน กทม. ด้วยคนรุ่นใหม่


นายสุวิทย์ยังกล่าวถึงกรณีเสียงวิจารณ์ว่า 4-5 ปี ที่ผ่านมา รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ก็บริหารประเทศ แต่ไม่สามารถทำให้ปัญหาดีขึ้นได้ว่า เป็นเพราะประเทศมีปัญหาสะสมมานานหลายปี การเมืองในอดีต มีแต่ความขัดแย้งไม่มีเสถียรภาพ การขับเคลื่อนประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ ก็ขับเคลื่อนไปอย่างยากลำบาก ด้วยสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ รวมไปถึงความท้าทายภายในประเทศ ซึ่ง 4 ปีที่ผ่านมาทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว ดังนั้นหากต้องการให้ประเทศพัฒนาต่อเนื่องก็ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ

นายสุวิทย์คาดหวังว่า จะได้รับชัยชนะในทุกเขตเลือกตั้งของ กทม.เพราะได้คัดสรรผู้สมัคนที่เป็นเพชรเม็ดงาม พร้อมกับนโยบายที่ตอบโจทย์ ทั้งการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม การจราจร รวมถึงพัฒนาความเป็นอยู่ ซึ่งทั้งหมดทำได้จริง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ที่ได้รับเสนอชื่อเป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคนั้น เป็นคนทำจริง ทำแล้ว และทำได้ ดังนั้นผู้นำแบบพล.อ.ประยุทธ์จึงถือเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้พรรคชนะการเลือกตั้ง