นายกรัฐมนตรีเชื่อกัมพูชาปิดด่านชายแดนไม่นาน
สั่งฝ่ายความมั่นคงไปดูแลแล้ว
เมื่อวันที่ 4 ก.ค.พล.อ.ประยุทธ์
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาปิดด่านชายแดนบริเวณ
จ.สระแก้ว 43 จุดโดยอ้างว่าเพื่อป้องกันการขนสิ่งของผิดกฏหมาย ว่า
ต้องดูว่าปิดด้วยเหตุผลอะไร
ช่วงนี้เป็นธรรมดาที่อาจต้องมีการปิดด่านชายแดนเพื่อตรวจสอบและกดดันการขนสิ่งของผิดกฏหมาย
แต่เชื่อคงปิดด่านชายแดนไม่นานเพราะทำให้คนของ 2 ประเทศเดือดร้อน
ซึ่งตนได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงไปดูแลในเรื่องนี้แล้ว
นายกฯ กล่าวถึงการออก พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 ว่า ได้มีการร่างคำสั่งตามอำนาจมาตรา 44 ในเรื่องนี้แล้วเรียบร้อย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีจะชี้แจงให้ทราบต่อไป โดยเป็นการแก้ทุกปัญหาที่มีอยู่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เสียผลประโยชน์ทั้งในประเทศ ในด้านธุรกิจและแรงงานบางประเภท ไม่ได้ทำตามใคร แต่คำนึงถึงสิ่งสำคัญที่สุดคือปัญหาการค้ามนุษย์ พันธะสัญญาของโลก หากแก้ไม่ได้มีการค้ามนุษย์ มีแรงงานเถื่อน ต่างชาติก็จะไม่ซื้อสินค้า ดังนั้นจึงต้องให้มีการจดทะเบียนที่ชายแดนและมีการจดสัญชาติให้เรียบร้อย ต้องแก้ปัญหาภายในให้ได้ เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบจากปัญหาไอยูยู และการค้ามนุษย์ ต้องเห็นใจ แต่กฎหมายจำเป็นต้องมี ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นจะกระทบทั้งหมด ส่วนที่ระบุว่า มีการเรียกรับผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าวที่ จ.ตาก ได้สั่งตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่าต้องมีมาตรการลงโทษสถานหนักไม่ละเว้น ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือทหารที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีการออกมาตรา 44 ต้องไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์หรือกักกันแรงงานต่างด้าว
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ทางกัมพูชาปิดช่องทางธรรมชาติเป็นช่องทางเล็ก ไม่ใช่จุดผ่อนปรนการค้าและจุดผ่านแดนถาวร ไม่มีผลกระทบต่อไทย เป็นการปิดเพื่อช่วยป้องกันสินค้าหนีภาษี ไม่เกี่ยวกับการประกาศใช้ พ.ร.ก. ของไทย ส่วนการชะลอการใช้บทลงโทษ 4 มาตรา ไปอีก 6 เดือน จะสามารถจัดระเบียบได้หรือไม่นั้น รมว.แรงงานยืนยันว่าจะทำให้ได้ ทั้งนี้ไม่ต้องมีมาตรการรับมือใดๆ เพราะมีข้อตกลงร่วมกับประเทศเพื้อนบ้าน เพราะแรงงานจะต้องกลับไปประเทศต้นทางและกลับมาไทยอีกครั้ง