ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เดินทางด้วยเครื่องบินประจำตำแหน่ง “แอร์ฟอร์ซ วัน” จากฐานทัพอากาศร่วมแอนดรูว์ส นอกกรุงวอชิงตัน เมื่อเวลา 12.30 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 00.30 น.เช้ามืดวันอังคารตามเวลาในไทย มุ่งหน้าสู่เวียดนามและมีกำหนดถึงกรุงฮานอยช่วงเย็นวันอังคาร เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งจะเน้นย้ำให้เห็นถึงผลประโยชน์ที่เกาหลีเหนือจะได้รับ หากคิม จอง อึน ยอมล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ แต่เขาก็บอกว่า ไม่ได้เร่งรีบ
ทรัมป์และคิม จอง อึน มีกำหนดประชุมสุดยอดในกรุงฮานอย เมืองหลวงเวียดนาม ในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ ห่างกัน 8 เดือนหลังจากการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ในสิงคโปร์เมื่อเดือนมิถุนายน ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐที่อยู่ในตำแหน่งและผู้นำเกาหลีเหนือ
แม้ยังไม่มีการคาดการณ์อย่างจริงจังว่า การประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 นี้ จะนำมาซึ่งข้อตกลงสุดท้ายในการล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐ ได้หรือไม่ แต่ก็มีความหวังว่า อาจนำไปสู่การประกาศยุติสงครามเกาหลีที่เกิดขึ้นระหว่างปี 2493-2496 อย่างเป็นทางการ โดยปัจจุบันนี้ สงครามยุติลงด้วยข้อตกลงสงบศึกชั่วคราวเท่านั้น ไม่ใช่ข้อตกลงหยุดยิง
ทรัมป์ ซึ่งกล่าวในกรุงวอชิงตันเมื่อวันอาทิตย์ ระบุว่า เขาเชื่อว่า แค่มองตากับคิม จอง อึน ก็ทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นอย่างดีมากมาก
ส่วนคิม จอง อึน เดินทางออกจากกรุงเปียงยางด้วยขบวนรถไฟเมื่อช่วงบ่ายวันเสาร์ เพื่อไปร่วมประชุมสุดยอดกับทรัมป์ พร้อมกับคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมทั้งคิม ยอง โชล เจ้าหน้าที่ด้านนิวเคลียร์, รี ยอง โฮ รัฐมนตรีต่างประเทศ และคิม โย จอง น้องสาวของคิม จอง อึน โดยขบวนรถไฟของผู้นำเกาหลีเหนือ ผ่านเมืองเหิงหยางของจีน เมื่อเวลา 03.30 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 14.30 น.ตามเวลาในไทย ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เขาจะเดินทางถึงกรุงฮานอยในช่วงเช้าวันอังคาร แต่ก็ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางของเขา
ในการประชุมสุดยอดครั้งแรกในสิงคโปร์ คิม จอง อึน ให้คำมั่นเดินหน้าปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีอย่างสมบูรณ์ แต่ด้วยข้อตกลงคลุมเครือที่ลงนามกัน จนถึงขณะนี้ จึงยังไม่มีผลอะไรเป็นรูปธรรมชัดเจน