“คุณหญิงสุดารัตน์”ลุยสุโขทัยเผย พท.เตรียมประกาศนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกข้าวเกวียนละ 5,000 บาท ไม่เกิน 15 เกวียน จี้ กกต.ตรวจสอบนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาหาเสียง ปูดหากได้เป็น ส.ส.บางพื้นที่ให้โควต้า 6 หมื่นใบ ย้ำไม่ยกเลิกสวัสดิการประชาชนที่เคยได้รับ แต่จะทำให้ดีขึ้น ประกาศนโยบายแก้ราคาข้าวให้ดีขึ้น ทบทวนการใช้ใบยาสูบในประเทศ
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ จ.สุโขทัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 3 เขตหาเสียงประกอบด้วยเขต1 นายประศาสตร์ ทองปากน้ำ เขต2 นายอรุณ สุภาพร และเขต3 น.ส.ประภาพร ทองปากน้ำ ซึ่งมีนายอารยะ ชุมดวง อดีตส.ส. สุโขทัย 6 สมัยให้การสนับสนุน
คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคเพื่อไทยเห็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในภาคการเกษตรโดยเฉพาะที่ จ.สุโขทัยซึ่งปลูกข้าวและยาสูบ โดยที่ผ่านมารัฐบาลปรับลดการรับซื้อใบยาสูบลง 48% แต่ไม่มีมาตรการรองรับทำให้ผลกระทบตกอยู่ที่เกษตรกร เพราะปกติการปรับลดการรับซื้อราคาจะต้องเพิ่มขึ้น แต่กรณีของใบยาสูราคากลับเท่าเดิม ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจึงอยากให้ ทบทวนนโยบายยาสูบโดยเฉพาะการนำเข้า บุหรี่จากต่างประเทศเพราะถือว่าเป็นการผลักภาระให้กับเกษตรกรนำบุหรี่จากนอกประเทศมาแข่งขันกับบุหรี่ไทย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนข้าวพรรคมีนโยบายที่เตรียมไว้แล้ว หลังจากนี้จะมีการแถลงเปิดตัวนโยบายภาคการเกษตร แต่เบื้องต้นจะทำให้ภาคการเกษตรของไทยมุ่งสู่การเป็นอาหารสุขภาพ ให้กับคนทั้งโล โดยจะปรับเปลี่ยนการผลิตหน้าดิน มีกองงทุนปรับหน้าดินมุ่งสู่ออแกนิกอินทรีย์ จะพักชำระหนี้ 3 ปีเพื่อให้เกษตรกรตั้งตัวได้ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันและมีนโยบายผลักดันราคาสินค้าการเกษตร แบบแม่นยำ โดยเป็นการช่วยเหลือค่าใช้จ่าย ในลักษณะตัน หรือเกวียนละ 5,000 บาท ไม่เกิน 15 เกวียน จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ 75,000 บาทต่อราย และหากเป็นเกษตรกรรายเล็ก มีผลผลิตไม่เกิน 7 เกวียน จะได้เงินช่วยเหลือ 36,000 บาท เพื่อเตรียมการพัฒนาการผลิตให้สินค้ามีคุณภาพ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ขณะที่ภาพรวมยืนยันว่าจะผลักดันราคาสินค้าเกษตรให้ขึ้นอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ภายใน 6 เดือน นอกจากนี้จะมีการอบรมพัฒนาภาคการผลิตและหาตลาดจากต่างประเทศมารองรับ ขณะเดียวกันจะส่งเสริมกองทุนหมู่บ้านและวิสาหกิจชุมชนให้รับซื้อข้าวมาแปรรูปและขายในพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ข้าวคุณภาพดีมาบริโภค
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย โดยเป็นคลิปเสียงพูดคุยทางโทรศัพท์อ้างว่า ให้เลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองหนึ่ง หากต้องการให้คงนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยระบุว่า พรรคได้รับการร้องเรียน เรื่องในลักษณะดังกล่าวมาต่อเนื่อง และเกิดขึ้นในหลายจังหวัด ไม่เพียงแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้น ที่รับทราบการกระทำในลักษณะนี้ แต่เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองที่ไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐก็รับทราบเช่นกัน ว่ามีพฤติกรรม ของส.ส.จากพรรคการเมืองหนึ่ง นำนโยบายของรัฐบาลมาใช้หาเสียง
"บางพื้นที่ มีการเรียกให้ผลประโยชน์โควตาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 60,000 ใบ หากได้รับเลือกเป็นส.ส.จึงอยากฝากไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อมีคลิปเสียงที่ชัดเจนก็ควรที่จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เพราะเป็นหน้าที่ของกกต.ที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมและการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นความหวังของประชาชนที่อยากเห็นโอกาสของประเทศเดินไปข้างหน้าดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องสร้างความเชื่อมั่น"คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าส่วนตัวมองว่า ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐสามารถประชาสัมพันธ์ โครงการของรัฐบาลได้แต่ไม่ใช่การสัญญาว่าจะให้ หรือนำงบประมาณของรัฐมาใช้ในลักษณะที่เข้าข่ายเป็นการซื้อเสียงผ่านโครงการของรัฐบาล ซึ่งกกต.ต้องไปตรวจสอบสำหรับกรณีที่บางพรรคการเมืองโจมตีว่าหากเลือกพรรคเพื่อไทยจะกลับไปสู่ความขัดแย้งและเป็นเผด็จการรัฐสภานั้น ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทย มีนโยบายที่จะนำพาประเทศไปสู่ความสงบ ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งพรรคเคารพในหลักการประชาธิปไตยดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เกิดเผด็จการรัฐสภา และอยากตั้งข้อสังเกตถึงการหาเสียงของบางพรรคการเมืองว่า แม้จะบริหารประเทศมานาน แต่อาจไม่มีนโยบายที่จะ สร้างแรงจูงใจให้ประชาชน เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจเลือก จึงนำเรื่องของความขัดแย้งมาใช้ในการหาเสียงเปรียบเสมือนกับการปลุกผีความขัดแย้งซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องก้าวข้าม ทั้งนี้ตนมองว่าเมื่อ ทุกฝ่ายอยากเห็นบ้านเมืองมีความปรองดอง ควรที่จะแข่งขันในการนำเสนอนโยบาย
" บางพรรคอาจไม่มีนโยบายขายให้กับประชาชนทั้งที่บริหารประเทศมานาน จึงปลุกผีเรื่องความขัดแย้งโดยเฉพาะคนพูดเรื่องนี้ซึ่งเมื่อยิ่งพูดยิ่งทำให้เกิดความขัดแย้งแตกแยก พรรคเพื่อไทย เราไม่สนใจเราไม่เล่นเกมส์นี้ด้วย เรามุ่งเสนอแต่นโยบาย เพราะเราเห็นว่าควรที่จะยุติความขัดแย้งได้แล้ว ซึ่งคนที่พูดเรื่องนี้ปากก็บอกว่าอยากเห็นการเมืองที่สร้างสรรค์แต่คำพูดกับการกระทำกลับตรงกันข้าม และตนอยากเชิญชวน พลเอกประยุทธ์มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์ใน การดีเบตของ เวทีพรรคการเมือง เพราะในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องน่ายินดี และประชาชนจะได้ประโยชน์ จากการนำเสนอแนวคิดของผู้นำแต่ละพรรค"คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
ต่อมาพรรคเพื่อไทยเปิดเวทีปราศรัยที่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทั้ง 3 เขตหาเสียง โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ และนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ปราศรัยพบปะประชาชน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านสภาพความเป็นอยู่ของเกษตรกรมีแต่แย่ลง เศรษฐกิจตกต่ำ เป็นผลจากการค้าขายไม่ดี พืชผลการเกษตรราคาต่ำ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะดูแลให้ทุกคนมีรายได้ที่มากขึ้น เพราะเกษตรกรคือกำลังซื้อที่สำคัญของประเทศ ถ้าเกษตรกรจน เศรษฐกิจประเทศจะพังหมด และขอยืนยันว่า สิทธิสวัสดิการต่างๆที่เคยได้รับเช่นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยอาสาสมัครสาธารณะสุขประจำหมู่บ้านพรรคเพื่อไทยจะไม่ยกเลิก แต่จะต่อยอดให้มีคุณภาพมากขึ้น ขณะที่เรื่องข้าวจะพักชำระหนี้เกษตรทั้งหมด 3 ปี โดยไม่ได้ยกให้ฟรี เพื่อให้เกษตรมีโอกาสลุกขึ้นยืนได้ และจะมอบเงินช่วยเหลือเพื่อพัฒนาการผลิตเกวียนละ 5,000 บาท สูงสุด 15 เกวียน ครัวเรือนละ 75,000 บาท ขณะที่ชาวนารายย่อยผลผลิตไม่เกิน 7 เกวียน ได้รับอุดหนุนเท่ากัน 36,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 5 %ราคาหมื่นบาท จะทำให้ผลิตข้าวน้อยลงราคาแพงขึ้นด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งพรรคจะหาตลาดจากต่างประเทศมารับซื้อ โดยมีกองทุนปรับหน้าดินมาช่วยหนุน ซึ่งทั้งหมดพรรคเพื่อไทยคิดอย่างเป็นระบบ และสามารถทำได้จริง
"เราจะไม่แจกบัตรคนจน คนจนมากขึ้นถือเป็นผลงานตรงไหน พรรคเพื่อไทยเราไม่คิดแบบนี้ต่อไปนี้เราจะแจกบัตรคนจนเราจะแจกบัตรคนรวยแทน เมื่อก่อนทำนาขายข้าว เดี่ยวนี้ทำนาขายนา เมื่อก่อนปลูกอ้อยขายอ้อย แต่เดี่ยวนี้ปลูกอ้อยขายรถ เพื่อไทยจะไม่ทำแบบนั้น และจะมีการเดินหน้าโครงการ 30 บาทจะทำอย่างมีคุณภาพ ทั้งการรักษาที่มีคุณภาพ ยามีคุณภาพ ไม่ต้องรอคิว ผู้สูงอายุจะต้องแข็งแรงก่อนป่วย"คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่ากติกาการเลือกตั้งเปลี่ยนไปจากเดิม มีกลไก ส.ว. 250 คนมาจากการคัดสรรของคสช.มีวาระการทำงาน 5 ปี สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ 2 สมัย 8 ปี ถ้าไม่อยากมีชีวิตเหมือนเดิม รวยกระจุย จนกระจาย ให้เลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย จากนั้นจะเป็นตนที่จะทำให้ทุกคนพ้นจากความยากจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายประเสริฐ สงวนทรัพย์ อุปนายกสมาคมชาวไร่ยาสูบ ได้ยื่นหนังสือถึงคุณหญิงสุดารัตน์ ขอให้ช่วยเหลือแก้ปัญหาของเกษตรกรชาวไร่ยาสูบ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขึ้นภาษีบุหรี่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการขึ้นภาษีรอบใหม่ในวันที่ 1 ตุ.ค. 2562 ที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตในอัตราตามมูลค่าร้อยละ 40 ของราคาขายปลีก ที่จะทำให้การใช้ใบยาสูบในประเทศลดลงมีการประกาศเลิกการรับซื้อใบยาปี 2562-2563 ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหาย 2 พันล้านบาทต่อปี โดยจังหวัดสุโขทัยเป็นแหล่งปลูกยาสูบสายพันธุ์เบอร์เล่ย์ที่สำคัญของประเทศ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์ได้รับเรื่องไว้ พร้อมนำไปศึกษาแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ทบทวนเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต เพื่อให้ใบยาสูบในประเทศมีราคาดีขึ้น