“อภิสิทธิ์”เสนอปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองภูเก็ตเป็นมหานคร จังหวัดจัดการตัวเอง ผู้บริหารสูงสุดมาจากการเลือกตั้ง มีท้องถิ่นต่างๆมาสนับสนุนการทำงานอย่างครบวงจร ปชป.พร้อมจะเดินหน้าทันทีเมื่อมีโอกาสเข้าไปเป็นรัฐบาล
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 ก.พ.ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวปราศรัยกับพี่น้องประชาชน ขอคะแนนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้แก่ นายเรวัต อารีรอบ ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 เบอร์ 13 นายไชยยศ ปัญญาไวย ผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต พรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 2 เบอร์11
นายอภิสิทธิ์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า เรื่องแก้จนถือเป็นเรื่องสำคัญมาก แต่การแก้จนที่ใหญ่กว่านั้นคือเราต้องมาดูว่าแต่ละจังหวัด แต่ละพื้นที่ มีโอกาสสร้างรายได้ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนอย่างไร ภูเก็ต แม้ว่าจะทำสถิติมีรายได้ให้ประเทศมาเยอะ แต่เราเชื่อว่าสามารถทำได้มากกว่านี้ ถ้ารัฐบาลกล้าตัดสินใจ เป็นเรื่องน่าเสียดายที่รัฐบาลหลายยุคคิดอย่างเดียวคือทำการตลาด แต่ไม่ค่อยสนใจว่าจะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนั้นอย่างไร
“พี่น้องประชาชนสนับสนุนประชาธิปัตย์มายาวนาน แต่ประชาธิปัตย์มีโอกาสเป็นรัฐบาลอยู่สั้นๆ เท่านั้น แต่ละครั้งประมาณ 2 ปีกว่าๆ ประชาธิปัตย์พยายามทำหลายโครงการเพื่อที่จะแก้จนอย่างยั่งยืน แต่น่าเจ็บใจที่นักการเมืองไม่มีคุณธรรมมาสกัดกั้น มาล้มหลายโครงการ เช่น โครงการศูนย์ประชุมที่ประชาธิปัตย์พยามผลักดันให้เกิดศูนย์ประชุมที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายกชวน หลีกภัย พอมีรัฐบาลอื่นมาก็มีการย้ายไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ พอรัฐบาลอภิสิทธิ์กลับเข้ามาเราได้ผลักดันโครงการศูนย์ประชุมที่เชียงใหม่จนสำเร็จ และรื้อฟื้นโครงการศูนย์ประชุมที่ภูเก็ต แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลผ่านมา2 รัฐบาลไม่มีการผลักดันโครงการนี้อีกเลย นี่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าชาวภูเก็ตต้องเลือกรัฐบาลที่มีแนวทางที่จะมาลงทุนที่จะเพิ่มศักยภาพให้จังหวัดของเรา หารายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่และหารายได้เข้าประเทศได้เพิ่มขึ้น”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ไปประกาศปฏิญญาทุ่งสง เพราะประชาธิปัตย์เตรียมพร้อมว่าจะต้องยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของภาคใต้ทั้งหทดอย่างไร จากการที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมถูกกลั่นแกล้งมาหลายยุคหลายสมัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถนน เรื่องมอเตอร์เวย์ เรื่องรถไฟ เรื่องสนามบินเรื่องของท่าเรือที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ดังนั้นวันนี้ต้องก้าวไปอีกขั้น ถ้าเป็นเช่นนั้นอย่าปล่อยให้เรื่องนี้เป็นอำนาจไปตัดสินใจอยู่ที่ กทม. วันนี้ถึงเวลาแล้วที่คนภูเก็ตมีผู้บริหารที่มาจากการเลือกตั้ง วันนี้ประชาธิปัตย์จึงขอเสนอว่า ภูเก็ตต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองเป็นรูปแบบพิเศษคือเป็นมหานคร เป็นรูปแบบจังหวัดจัดการตนเอง ผู้บริหารสูงสุดมาจากการเลือกตั้ง มีท้องถิ่นต่างๆมาสนับสนุนการทำงานอย่างครบวงจร นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์พร้อมจะเดินหน้าทันทีเมื่อมีโอกาสเข้าไปเป็นรัฐบาลครั้งนี้