ประธานศูนย์บ้านบุญเต็มยะลา จี้ จนท.ช่วยเด็กกว่า 200 เหยื่อกระทบอดีตอาจารย์ ข่มขืนเด็กที่ยะลา
จากกรณี ที่นายมะยูโซ๊ะ เซ็น อ้างเปิดสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าแต่ได้จัดการเรียนการสอนระดับอนุบาลถึง ม.3 โดยมีผู้ปกครองนำลูกๆ มาเรียนจำนวน 200 กว่าคน แต่เมื่อเกิดเหตุ นายมะยูโซ๊ะ เซ็น มีพฤติกรรมอนาจาร ลวนลาม และข่มขืนเด็ก จำนวน 5 รายและมีการออกหมายจับ โดยนายมะยูโซ๊ะ ได้หลบหนีหายไปในกลีบเมฆ ทำให้ผู้ปกครองได้เดินทางไปรับลูกๆ ทั้งหมดกลับบ้าน โดยไม่ทราบว่าเด็กจะมีอนาคตทางการศึกษาต่อไปอย่างไรนั้น
ในเรื่องนี้ วันที่ 24 ก.พ.นางบุษยมาศ อิศดุลย์ ประธานศูนย์แม่บุญเต็มยะลา ได้ฐานะที่ได้ติดตามและให้ความช่วยเหยื่อ 5 รายที่ถูกกระทำจากนายมะยูโซ๊ะ เซ็น อย่างใกล้ชิด กล่าวว่า ตั้งแต่มีเรื่องผู้ปกครองไปแจ้งความจนกระทั่งทราบเรื่องล่าสุดเมื่อวานเกิดการตรวจสอบจากเด็ก รร.ปอเนาะจากที่อยู่โรงเรียนนั้นตอนนี้ไม่มีเด็กตกค้างอยู่ในโรงเรียนเด็กส่วนหนึ่งที่ถูกลวนลามไปอยู่บ้านพักเด็กจึงเกิดความรู้สึกว่าแล้วเด็ก 200 กว่าคนที่ไม่มีที่เรียน หลังจากนี้ไปจะมีส่วนไหนหรือจะมีหน่วยงานราชการใดมารองรับหรือรับผิดชอบในเรื่องของการเรียนต่อ ผู้ปกครองจะต้องรับภาระเพราะว่าเด็กถูกผู้ปกครองรับกลับบ้านหมดเลย 200 กว่าคน ตรงนี้ยังไม่มีเจ้าภาพยังไม่มีหน่วยงานไหนยกมือขอเป็นคนที่จะรองรับปัญหาตรงนี้ ส่วนผู้ปกครองของเหยื่อ 5 รายมีความ ยากลำบากฐานะยากจน ไม่มีเงินในเรื่องการเดินทางที่ต้องเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมในจำนวน 5คน มีผู้ปกครอง 2คน ที่อยู่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาสที่ต้องเดินทางไปกลับทุกวันตรงต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สิ่งเหล่านี้ก็เป็นการยากลำบากเรื่องของการเข้าขบวนการยุติธรรมที่ต้องมาสอบปากคำ ให้กับ สหวิชาชีพ ที่สำนักงานอัยการจังหวัด ยะลาผู้ปกครองเริ่มบ่น เริ่มมีความเหนื่อยล้า เริ่มมีความท้อเรื่องที่จะนำลูกของตัวเองเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมเพื่อที่จะได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด
จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วผู้ปกครองได้คุยกับเราที่มาพบพร้อมกันว่า อาจจะต้องขอทางโรงเรียนเดิมเพื่อขอให้เด็กกลุ่มนี้ได้สอบหลังจากที่ได้เข้ากระบวนการยุติธรรมจบแต่กลายเป็นว่าหลังจากวันนั้นแล้วผู้ปกครองส่วนอื่นๆที่ลูกไม่ได้รับผลกระทบมารับลูกกลับไปด้วยหมดเลยกลายเป็นว่าตอนนี้เด็กที่มีปัญหาไม่ใช่แค่ 5 คนนี้แล้ว แต่เป็นจำนวนถึง 200 กว่าคนที่ผู้ปกครอง ทยอยมารับกลับไปบ้านแล้วเด็กกว่า 200 คนนี้จะไปทางไหน ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาตรงนี้คือสิ่งที่เป็นคำถามของชาวบ้านหลายๆคน กังวลแล้วก็เห็นใจแล้วก็เกิดคำถามมากมายว่า จะมีหน่วยงานไหนเข้ามารับผิดชอบ เหนือสิ่งอื่นใดมีคำถามตามมาอีกมากมายว่าแล้วเหตุใดโรงเรียนแห่งนี้ถึงเปิดขึ้นมาได้กลายเป็นว่าเค้าสามารถดำเนินการเป็นปีๆทั้งๆที่ไม่ได้ จดทะเบียนกับ สช. ของ จ.ยะลา