"อนาคตใหม่" จัดปิกนิกสวนเบญจกิติ "พิธา" เปิดนโยบายกัญชา อยากเห็นไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศศูนย์กลางเกี่ยวกับกัญชาชั้นนำของโลก ทั้งด้านการแพทย์ การท่องเที่ยวสันทนาการ ด้าน “ธนาธร” ปลุกพลัง “ฟิวเจอร์ริสต้า”สังเกตการณ์การเลือกตั้ง รวมพลังเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่สวนเบญจกิติ พรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค รวมถึงผู้สมัคร ส.ส. กทม. ทั้ง 30 เขต ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมกิจกรรม "ปิกนิกอนาคตใหม่"โดยเปิดให้ผู้เข้าร่วมข้างล่างเวทีสามารถร่วมกันตั้งคำถาม หรือมีข้อเสนอแนะให้แก่ผู้รับผิดชอบนโยบายแต่ละด้าน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่มีเป้าหมายอยากเห็นประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 ประเทศศูนย์กลางเกี่ยวกับกัญชาชั้นนำของโลก ทั้งด้านการแพทย์ การท่องเที่ยวสันทนาการ แต่สำหรับแผนระยะสั้น คือการกระจายโอกาสกัญชาให้กับ 1.ผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องการรักษาทางเลือกมากกว่าแบบแผนปัจจุบัน 2.กระจายโอกาสให้เกษตรกร พ.ร.บ.ล่าสุดอาจจะบอกว่าปลดล็อกปลูกกัญชา บอกว่าวิสาหกิจชุมชนปลูกได้ แต่ความเป็นจริงเกษตรกรยังไม่รู้ว่าวิสาหกิจนั้นเริ่มต้นต้อง 7 คนขึ้น ยังไม่รู้เรื่องเมล็ดพันธุ์ เรื่องเทคโนโลยีซึ่งควรต้องได้รับการสนับสนุน
"สำหรับระยะกลาง จากที่ผมเคยไปจาไมก้า โดยเฉพาะที่บ้านเกิดของบ็อบ มาร์เลย์ คือเมือง เซนต์ แอนน์ นั้นถูกจัดพื้นที่พิเศษเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเกี่ยวกับกัญชา เป็นพื้นที่พิเศษสูบกัญชาแบบสันทนาการได้ ซึ่งเงินภาษีที่เก็บได้นำไปช่วยเรื่องการศึกษา อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยกัญชาเป็นเรื่องใหม่ เช่น เดียวกับเทคโนโลยีต่างๆ เราอาจมีภูมิภาคหนึ่งเป็นพิเศษสำหรับทดลอง ศึกษาการใช้กัญชาในเชิงสันทนาการ และดูว่าปัญหาต่างๆ เหล้า เบียร์ บุหรี่ เมาแล้วขับ ลดหรือไม่ ประสิทธิภาพของผู้คน แรงงานเป็นอย่างไร ผมเห็นว่าเงินที่ได้จากภาษีสามารถช่วยสังคมได้อีกมากมาย แต่การทำนั้นต้องทำให้มีคุณภาพ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ภาครัฐจะต้องเข้าไปสนับสนุนทั้งผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีต่างๆ ด้วย" พิธา กล่าว
จากนั้น นายปิยบุตร ขึ้นเวทีปราศรัยโดยกล่าวถึงปัญหาการเมืองที่ประเทศไทยเผชิญ วงจรรัฐประหารซ้ำซากในประเทศไทยที่ไม่เคยปล่อยให้ประชาธิปไตยได้เติบโต รวมทั้งปลุกคนรุ่นใหม่ให้ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นประตูบานแรกที่จะเปิดไปสู่การเปลี่ยนแปลง
ขณะที่นายธนาธร กล่าวถึงปัญหาด้านเศรษฐกิจ และแนวทางในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คน และยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้พ้นจากการประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ผ่านโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคอนาคตใหม่
นอกจากนี้ นายธนาธรยังได้กล่าวถึงก้าวย่างต่อไปของพรรคอนาคตใหม่ ว่าขณะนี้พรรคอนาคตใหม่ นับว่ายังอยู่ในระยะตั้งต้นของการก่อตั้งพรรคการเมืองที่มีความเข้มแข็งในอนาคต ซึ่งต้องอาศัยพลังของฟิวเจอร์ริสต้า (Futurista) หรือชาวอนาคตใหม่ ในการร่วมแรงร่วมใจกันลุกขึ้นมามีส่วนร่วม โดยเฉพาะหน้าคือการเป็นอาสาสมัครสังเกตการณ์การเลือกตั้งทั่วประเทศ ส่วนในระยะยาวคือการร่วมเป็นพลังที่เรียกร้องการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทย ไปด้วยกันกับพรรคอนาคตใหม่
“อนาคตใหม่ไม่ใช่พรรคธนาธร ธนาธรทำคนเดียวไม่ได้ เราไม่ต้องการให้พรรคขึ้นอยู่กับธนาธร ไม่ต้องการให้พรรคขึ้นอยู่กับคนใดคนหนึ่ง เพราะเรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนทุกคนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง ลุกขึ้นมาเรียกร้องลุกขึ้นมาทำพร้อมกันเท่านั้น ทุกคนคือฟิวเจอร์ริสต้าที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในประเทศนี้” นายธนาธร กล่าว