กกต.ขอ ตร.ดูแลความปลอดภัยเลือกตั้ง

2019-02-23 00:15:16

กกต.ขอ ตร.ดูแลความปลอดภัยเลือกตั้ง

Advertisement

เลขาธิการ กกต. กำชับตำรวจขอให้ดูแลความปลอดภัยวันเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มี.ค. และวันเลือกตั้งจริง 24มี.ค. โดยเฉพาะพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีอาญาตามกฏหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองครั้งที่ 2/2562


พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า สิ่งที่เป็นห่วงในกานเลือกตั้ง คือ การรักษาความปลอดภัยในวันเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มี.ค. และ วันเลือกตั้งจริง 24 มี.ค. ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงเวลาในการนับคะแนน หลังเวลา 17.00 น. ซึ่งอาจล่วงเลยไปจนถึง 21.00 น. ส่วนเรื่องการจราจร ขอให้ตำรวจช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทางมาลงคะแนน รวม 61 หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าในเขต กทม.และปริมณฑล อาทิ โรงเรียนบ้านบางกะปิที่จะมีคนมาเลือกตั้ง 61,401 คน รวมถึงสถานที่จอดรถ ที่ยังคงเป็นปัญหา โดยขอให้มีการจัดสรรพื้นที่ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปช่วงเช้า เพื่อจะเข้าถึงพื้นที่ได้สะดวก เนื่องจากปีนี้ประชาชนมีความตื่นตัวในการเลือกตั้งค่อนข้างสูงมากกว่า 2 ล้านคน

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการจัดการดูแลพื้นที่ในแต่ละแห่ง รวมถึงการดูแลคงามปลอดภัยต่อประชาชนส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติภายในวันที่ 1 มี.ค.นี้ ส่วนกรณีการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง กกต.กำชับให้ตำรวจทำงานเก็บหลักฐาน อาทิ เงินที่ใช้ในการซื้อสิทธิขายเสียง ส่วนการดำเนินคดีอาญาในเรื่องจำหน่ายสุรา ภายหลังตำรวจจับกุมผู้กระทำผิด ให้ทำหนังสือรายงานมาที่กกต. เนื่องจากฐานความผิดครอบคลุมกฎหมายของ กกต. และหาก กกต.ต้องการรับคดีมาดำเนินการเอง จะส่งหนังสือกลับมายังตำรวจ ทั้งนี้ยังไม่พบความผิดซึ่งหน้าในคดีต่างๆแต่อย่างใด


ส่วนเรื่องงบประมาณในการดำเนินการดูแลการเลือกตั้งที่สำนักงานคณะกรรมกานการเลือกตั้ง จัดสรรใหสำนักงานตำรวจแห่งชาติครั้งแรกที่ได้ของบประมาณไปกว่า 100 ล้านบาท เบื้องต้นอนุมัติมาทั้งสิ้น 95 ล้านบาท โดยล่าสุดทาง กกต.จะขออนุมัติเพิ่มอีก 37 ล้านบาท โดยรอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทุกกองบัญชาการทำความเห็นส่งกลับและขอให้พิจารณาบริหารงบประมาณในกรอบจำนวน 95 ล้านบาทไปก่อนในเบื้องต้น

ทั้งนี้การจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หากเป็นข้อหาที่มีโทษทางอาญาให้ตำรวจดำเนินคดีได้ทันที หากเป็นความผิดเกี่ยวกับการทุจริตที่มีโทษถึงผลของการเลือกตั้ง ให้พนักงานสอบสวนแจ้งมายัง กกต. ภายให้ 72 ชั่วโมงเพื่อพิจารณาว่า จะขอโอนสำนวนมาให้กกต.ดำเนินคดีเองหรือไม่




ส่วนคดีการทุจริตซื้อเสียง ของให้ตำรวจเก็บรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญ คือ เงินที่ถูกใช้ในการซื้อเสียง ซึ่งขณะนี้ กกต.ได้รับเบาะแสทั้งเรื่องร้องเรียนและตรวจพบการทุจริต ในรูปแบบการเก็บบัตรประชาชนจำนวนทั้ง42เรื่อง นอกจากนี้ตามกฎหมายแล้ว การสอบสวนคดีทุจริตการเลือกตั้ง ยังมีประเด็นเรื่องการคุ้มครองพยานและการกันตัวผู้กระทำความผิดมาเป็นพยาน ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายทั่วไปตรงที่สามารถกันตัวการร่วมกระทำความผิดในข้อหาหนักมาเป็นพยานได้ ในส่วนนี้จะให้ฝ่ายกฎหมายของกกต.ชี้แจง เพื่อให้ตัวแทนแต่ละกองบัญชาการนำไปถ่ายทอดให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดรับทราบ

/// ปล่อยเสียง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ///



/// พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ///