ครูสาววอนช่วยลูกศิษย์เจ้าชายนิทรา- แม่ป่วยโรคพุ่มพวง

2019-02-22 23:50:34

ครูสาววอนช่วยลูกศิษย์เจ้าชายนิทรา- แม่ป่วยโรคพุ่มพวง

Advertisement

ครูสาววอนช่วยลูกศิษย์ป่วยเป็นเจ้าชายนิทรา แม่ป่วยเป็นโรคพุ่มพวงที่เมืองหัวหิน


วันที่ 22 ก.พ. จากที่นางพจมาน อ่วมเสมียน อายุ 40 ปี ครูโรงเรียนเทศบาลวัดหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ได้โพสต์รูปและข้อความในไลน์กลุ่ม ก่อนมีการแชร์ในโซเซียล อย่างต่อเนื่อง ข้อความว่า “ขออนุญาตทุกท่านนะคะ ครูมีเรื่องขอความเมตตาจากท่านผู้ใจบุญช่วยเหลือลูกศิษย์ของครูสักคนนะคะ ชื่อน้องแฟร้งค์ค่ะ ด.ช. สุรชัย พูลสุข นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนเทศบาลวัดหนองแกค่ะ น้องป่วยเป็นโรคที่หมอยังวินิจฉัยไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร กลายเป็นเจ้าชายนิทราเป็นผู้ป่วยติดเตียงตลอดชีวิต ตอนนี้ปอดติดเชื้ออยู่โรงพยาบาลหัวหิน ครอบครัวยากจนค่ะต้องเช่าห้องอยู่ คุณแม่เป็นโรคพุ่มพวงต้องรักษาตัวเองด้วยดูแลลูกด้วย และทุกๆเดือนต้องเดินทางไปรับยาที่ ร.พ.จุฬาเพื่อรักษาตัวเองและลูก ค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวแม่และลูกก็ผ่อนกับทาง ร.พ.จุฬาเอา น่าจะหลายแสนอยู่ค่ะ ยังมีค่าอาหารทางสายยาง ค่าอุปกรณ์ทำแผล และแพมเพิสที่ต้องใช้ตลอดทุกวัน ครูสงสารค่ะเผื่อข้อความของครูจะส่งไปถึงผู้ใหญ่ใจดีได้ลงมาช่วยเหลือครอบครัวนี้บ้าง ขอบคุณทุกท่านที่อ่านและแชร์ข้อความของครูนะคะ”



ต่อมาวันที่ 22 ก.พ.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นางสุดารัตน์ ทองสุข อายุ 40 ปี มารดา ด.ช. สุรชัย พูลสุขหรือน้องแฟร้งค์ อายุ 11 ปี ที่นอนรักษาตัวภายในห้องไอซียู ชั้น 3 โรงพยาบาลหัวหิน โดย นางสุดารัตน์ เล่าว่าตนมีบุตรชาย 2 คน คนโตอายุ 20 ปี ทำงานเป็น รปภ.โรงแรมแห่งหนึ่ง พ่อน้องแฟร้งค์ แยกทางกันตั้งแต่น้องแฟร้งค์ ยังเด็ก ปัจจุบันอาศัยอยู่ในบ้านเช่าในซอยหัวหิน 102 และเย็บพรมเช็ดเท้าและร้อยพวงมาลัยขายเลี้ยงชีพ ก่อนหน้านั้นเมื่อสามปีก่อน น้องแฟร้งค์ ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกและกลับมาเป็นอีกเมื่อปีที่แล้วก็รักษาจนหายแต่ยังมีอาการไอ เจ็บคอและซึมอยู่ตลอด ต่อมาน้องเป็นไข้และเกิดช็อกพาไปส่งโรงพยาบาลหัวหินแต่หมอก็วินิจฉัยไม่ได้ว่าน้องเป็นอะไร จนน้องเริ่มไม่รู้สึกตัว จึงรีบส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลราชบุรี และโรงพยาบาลจุฬา ก็ยังไม่ทราบสาเหตุว่าน้องเป็นโรคอะไร จนถึงขณะนี้น้องนอนนิ่งเป็นเจ้าชายนิทรา มีอาการติดเชื้อรุนแรงที่ช่องท้องเนื่องจากต้องเสียบสายปัสสาวะตลอดเวลาและเริ่มมีแผลกดทับตามตัว ซึ่งตอนนี้ค่าใช้จ่ายแต่ละวันเยอะมากต้องขอผ่อนจ่ายค่ายาจากทางโรงพยาบาลจุฬา และตนเองก็ป่วยเป็นโรคพุ่มพวงต้องรักษาตัวเองด้วย ทำงานหนักไม่ได้ ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่กับลูกชายคนโต สิ่งที่ต้องการมากในตอนนี้คืออุปกรณ์ทำแผล แพมเพิส และอาหารจำพวกน้ำมันรำข้าว ไข่ และอกไก่ เป็นต้น ทุกวันนี้ตนและคนในครอบครัวพร้อมที่จะสู้และรอวันที่น้องจะกลับมาพูดคุยและสดใสเหมือนเดิมแม้ความหวังจะมีอยู่น้อยนิดก็ตาม





ด้านนางพจมาน ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของน้องแฟร้งค์ กล่าวว่าเห็นอาการเด็กเริ่มแรกรู้สึกสงสารครอบครัว น้องแฟร้งค์ รักแม่เขามากพูดถึงแม่แล้วร้องไห้ ครูเห็นน้องซึมๆก็คิดว่าเขาคงเสียใจและยิ่งตกใจที่ทราบว่าแม่เป็นโรคพุ่มพวง พอมารู้อีกทีเด็กก็เข้าโรงพยาบาลแล้วยิ่งสงสารแม่เขาที่ป่วยและยังต้องเหนื่อยที่ต้องมาดูแลลูกอีก ครูมาเยี่ยมเขาบ่อยๆและช่วงนี้ก็เห็นความลำบากคือต้องหาค่าเช่าบ้านเพิ่ม แล้วน้องก็อาการหนักขึ้น ยารักษามาจากต่างประเทศจึงมีราคาแพงต้องเป็นหนี้กับโรงพยาบาลจำนวนมาก จึงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือแบ่งเบาภาระแม่เขา ถึงแม้ว่าเด็กของครูอาจไม่กลับมาปกติเหมือนเดิมก็ตาม