เมื่อวันที่ 3 ก.ค. น.ส.นิษฐาณัฐ
ภัทรธนินนิษฐ์ หรือ “แม่นิด” อายุ 54
ปี อยู่บ้านเลขที่ 93 /2 หมู่ที่ 9
ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ระบุว่า ถูก นายพิสิษฐ์ สัมมาเลิศ ทนายความที่โกงเงิน “น้องบีม” ไปเกือบ 5 ล้านบาท หลอกลวงเอาเงินไปกว่า 1.3 ล้านบาท หลังมอบหมายให้ว่าความคดีมรดก
โดยทนายขอเงินเรียนต่อปริญญาเอก พร้อมอ้อนขอซื้อรถเบนซ์ ตนเห็นว่าเป็นคนพูดจาน่าเชื่อถือเลยให้เงินไปพร้อมแนะให้ช่วยว่าความให้กับแม่ของน้องบีมไม่คิดว่าจะเป็นคนเช่นนี้
เผยทนายความรายนี้มีภรรยาเป็นคนทำเอกสารทุกอย่างในการดำเนินการทุกเรื่อง
วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเพราะถือเป็นนักบุญคนบาปตัวจริงที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการทนายความ
แม่นิด เล่าอีกว่า เมื่อปี 2550 รู้จักกับภรรยาทนายพิสิษฐ์
จึงได้ติดต่อ ว่าจ้างทนายพิสิษฐ์
ช่วยว่าความให้เป็นผู้จัดการมรดกของครอบครัวหลังพ่อแม่เสียชีวิต
โดยจ่ายค่าว่าจ้างทนายให้ตามปกติ
หลังเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วจึงแนะนำให้ช่วยว่าความให้กับแม่ของน้องบีม จากนั้นไม่นานทนายพิสิษฐ์ได้ติดต่อมาว่าเป็นอาจารย์สอนอยู่สถาบันราชภัฏแห่งหนึ่ง
มีความใฝ่ฝันอยากจบปริญญาเอกเป็น ดร. แต่ต้องใช้เงินมากรวมทั้งไม่มีรถยนต์ในการเดินทางไปเรียนหนังสือต่อ ตนเลยเอ่ยปากขอยืมเงินกับญาติๆ ไปเป็นเงินกว่า
1.3 ล้านบาทเพราะเห็นว่าทนายคนนี้พูดจาไพเราะน่าเชื่อถือไม่น่าจะมีอะไรจึงให้เงินช่วยเหลือไป
โดยทนายพิสิษฐ์ยังแอบไปยืมเงินญาติของตนอีก 2 ราย เป็นเงิน 9.5 แสนบาท แต่ทราบว่ามีการใช้คืนไปบางส่วนแล้ว
แม่นิด กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้นพอทวงถามเรื่องเงินก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด
เมื่อถามไปทางภรรยา กลับตอบเช่นเดียวกัน ก่อนที่จะเปลี่ยนเบอร์มือถือติดต่อไม่ได้อีกเลยทั้งสองคน ทุกวันนี้ตนกับลูกชาย
3 คนกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเหมือนเป็นตราปาบที่ไปแนะนำให้ทนายคนนี้ช่วยว่าความให้กับครอบครัวของน้องบีม
ส่วนตนเองก็เดือดร้อนไม่แพ้กันเพราะลูกชายสองคนไม่มีเงินเรียนต่อ
ส่วนคนเล็กที่กำลังเรียนอยู่ก็มีปัญหาเรื่องค่าเทอม
ตอนนี้ประกาศขายบ้านที่ได้รับจากมรดกเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากไม่มีรายได้อะไร