ทษช.ยื่น 8 ประเด็นสู้ยุบพรรค

2019-02-20 19:10:53

 ทษช.ยื่น 8 ประเด็นสู้ยุบพรรค

Advertisement

ทษช.ยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ แก้ข้อกล่าวหา กกต.เสนอให้ยุบพรรค 20 หน้า รวม 8 ประเด็น ยันเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายสุรชัย ชินชัย และนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความได้เดินทางมายังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) รวม 20 หน้า ประเด็นข้อต่อสู้รวม 8 ประเด็นดังนี้ 1. การดำเนินกิจการของพรรคไทยรักษาชาติ เป็นไปตามประกาศอุดมการณ์ นโยบายในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. พรรคทำตามประสงค์และความยินยอมของทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ภายใต้รัฐธรรมนูญ กฎหมาย ประกาศพระบรมราชโองการ พ.ศ. 2515 และข้อบังคับพรรค ไม่มีกฎหมายใดบัญญัติเป็นข้อห้ามมิให้ ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในฐานะนายกรัฐมนตรี 3. พรรคเข้าใจโดยสุจริตว่าการเสนอชื่อทูลกระหม่อมฯ ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นการกระทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 88, 89 และ พ.ร.ป. ว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 13 และ 14 ไม่ใช่เป็นการกระทำที่อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


4. เมื่อมีพระราชโองการวันที่ 8 ก.พ. 2562 เวลา 23.00 น. ภายหลังที่พรรคได้แจ้งรายชื่อบัญชีนายกฯ ไปแล้วเมื่อเวลา 09.00 น. พรรคจึงได้แถลงโดยทันทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อน้อมรับพระราชโองการไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ด้วยความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทุกพระองค์ เป็นการแสดงเจตนารมณ์โดยชัดเจนว่าพรรคไม่ติดใจในการเสนอชื่อนายกฯ 5.การกระทำตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 88 และมาตรา 89 ประกอบมาตรา 87 และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 13 และ มาตรา 14 ให้ถือว่าการเสนอชื่อบุคคลใดที่มิได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายดังกล่าวให้ถือว่าไม่มีการเสนอชื่อบุคคลนั้น จึงไม่เป็นการกระทำที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 92 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดให้ผู้ร้องกล่าวหาผู้ถูกร้องในทางใดๆ ต่อศาลได้ 6. พรรคเห็นว่าคำว่า “ปฏิปักษ์” ให้ความหมายว่า ฝ่ายตรงกันข้าม ข้าศึก ศัตรู แต่การกระทำของผู้ถูกร้อง ได้กระทำการเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และเป็นความประสงค์ของทูลกระหม่อมฯ ที่อาสาเข้ามาทำงานให้กับประเทศชาติ และยินยอมให้ผู้ถูกร้องเสนอชื่อ มิใช่เป็นการแอบอ้างโดยพละการ

7. กกต. ไม่มีอำนาจหน้าที่นำพระราชโองการมาขยายความกล่าวหาพรรคฯว่ากระทำผิดตามมาตรา 92 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 คำขอให้พิจารณาวินิจฉัยเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคนั้น เป็นการขยายความของพระราชโองการที่เป็นโทษ เป็นเรื่องที่มิบังควร และไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง อันเป็นการนำพระราชโองการมาแอบอ้างใช้อย่างมีเจตนาไม่สุจริต เป็นการกล่าวหาโดยสร้างฐานความผิดใหม่ซึ่งไม่มีฐานกฎหมายใดๆบัญญัติไว้ 8. มติในการประชุมครั้งที่ 18/2562 เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2562 ของ กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคไม่เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจาก กกต.จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามมาตรา 41 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ประกอบระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และมีพฤติกรรมไม่สุจริต ซึ่งพรรคมีหลักฐานนำเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญและพรรคจะใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินการที่พรรค ไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป


พรรคไทยรักษาชาติมีความบริสุทธิ์ใจ ที่จะมุ่งนำเสนอพยานหลักฐานต่อศาลรัฐธรรมนูญ คดีนี้เป็นคดีที่มีข้อกล่าวหาต่อพรรคฯ อย่างรุนแรง ขอศาลรัฐธรรมนูญได้โปรดรับฟังความทั้งสองฝ่ายก่อนมีคำวินิจฉัยใดๆ

นายสุรชัย ชินชัย ทนายความ กล่าวว่า ได้เสนอบัญชีพยานบุคคล เป็นกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 14 ปาก และบุคคลภายนอกอีก 5 ปาก รวมทั้งหมด 19 ปาก