“พล.ท.คงชีพ” แจงละเอียดยิบงบ กห. โปร่งใส เพิ่มขึ้นไม่ใช่เรื่องการป้องกันประเทศเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ ทุกภัยที่ไม่ได้เกิดจากสงครามอีกมากมาย ชี้งบประมาณของประเทศคือทหารด้วย พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ไม่อยากให้พูดแบบลอยๆ
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงชี้แจงงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ภายหลังจากพรรคการเมืองเสนอนโยบายตัดงบประมาณว่า นอกจากภารกิจป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหมมีบทบาทสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลด้วย ที่ผ่านมากองทัพต้องรับมือกับคอมมิวนิสต์ รัฐบาลสมัยนั้นจึงกำหนดให้มีกำลังทหารมากขึ้น โดยสังคมจะเป็นตัวกำหนดขนาดของกองทัพเพื่อตอบสนองภัยคุกคามทำให้กองทัพมีขนาดใหญ่มากขึ้น จึงต้องมีการจัดสรรงบประมาณ ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ที่มีการพูดว่ากระทรวงกลาโหมได้งบประมาณแต่ละปีมากขึ้น ต้องดูภาพรวมว่างบประมาณของประเทศในแต่ละปีก็เติบโตขึ้นไปด้วย ซึ่งปัจจุบันงบประมาณของประเทศเติบโตประมาณ 3 ล้านล้านบาท ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา งบประมาณกองทัพลดลง ทำให้เกิดปัญหาไม่มีงบประมาณในการฝึก ไม่มีน้ำมันสำหรับการฝึก โดยเฉพาะเครื่องบิน ไม่มีการบำรุงยุทโธปกรณ์ ทำให้ยุทโธปกรณ์ได้รับความเสียหาย อีกทั้งยังเกิดปัญหานักบินสมองไหล กองทัพไม่ได้มีงบประมาณลับอะไร ยืนยันว่างบประมาณของประเทศคือภาษีของประชาชน ภาษีของทหารด้วย เพราะทหารก็เสียภาษีเช่นกัน
ต่อข้อถามว่า การตัดงบ 10 เปอร์เซ็นต์ จะส่งผลกระทบอะไรต่อกองทัพ พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า มิติความมั่นคงไม่ใช่เรื่องการป้องกันประเทศเพียงอย่างเดียว มีงบประมาณในส่วนของช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ และทุกภัยที่ไม่ได้เกิดจากสงครามปัจจุบันก็มีมากมาย แต่เราพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นของประชาชนทุกคน หากข้อเสนอเป็นประโยชน์ก็พร้อมรับฟัง อยากพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน ไม่อยากให้มีการพูดกับแบบลอยๆ ทั้งนี้หากนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) หรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยมีข้อมูลเสนอมาก็พร้อมรับฟัง
สำหรับงบประมาณกระทรวงกลาโหมตั้งแต่ปี 2557-2562 มีดังนี้ ปี 2557 ได้รับงบประมาณ 183,819 ล้านบาท ปี2558 ได้รับงบประมาณ 192,949 ล้านบาท ปี 2559 ได้รับงบประมาณ 206,461 ล้านบาท ปี 2560 ได้รับงบประมาณ 213,544 ล้านบาท ปี 2561 ได้รับงบประมาณ 218,503 ล้านบาท และปี 2562 ได้รับงบประมาณ 227,126 ล้านบาท