เปิดวงจรปิดเร่งล่าตัว 2 คนร้ายบึมตู้เอทีเอ็ม

2019-02-20 17:10:01

เปิดวงจรปิดเร่งล่าตัว 2 คนร้ายบึมตู้เอทีเอ็ม

Advertisement

ความคืบหน้า 2 คนร้ายสวมไอ้โม่ง ขี่รถจักรยานยนต์วางระเบิดตู้เอทีเอ็ม หวังเงิน 1.8 ล้านบาท ตำรวจเร่งแกะรอยวงจรปิดเส้นทางหลบหนี พุ่งเป้าก่อเหตุประสงค์ต่อทรัพย์

วันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้าเหตุการณ์ 2 คนร้ายสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ วางระเบิดตู้เอทีเอ็ม เมื่อช่วง 02.00 น. เช้ามืดที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ EOD ร่วมกับ เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจหาวัตถุพยานหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าตู้นิรภัยส่วนด้านในของตู้เอทีเอ็ม ไม่ได้รับความเสียหาย ทำให้คนร้ายไม่สามารถนำเงินกว่า 1.8 ล้านบาท
ออกไปได้



ขณะที่ พ.ต.อ. ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก สภ.ขลุง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ให้เร่งหาเบาะแสติดติดตามจับกุมคนร้าย มาดำเนินคดีโดยเร็ว ล่าสุดได้ประชุมตำรวจสืบสวนเพื่อรายงานความคืบหน้า เบาะแสของคนร้าย พร้อมกันนี้ได้มอบหมายงานให้ทุกฝ่าย เร่งไปดำเนินงาน

ในส่วนผลความคืบหน้า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ภายในอาคาร พบช่วงเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ วิ่งมาจอดบริเวณริมรั้วด้านหน้า โดยมีคนร้ายนั่งซ้อนกันมา 2 คน คนหนึ่งนั่งรอที่รถ อีกคนวิ่งนำระเบิดไปวางหน้าตู้เอทีเอ็ม อีกคนคอยยืนดูต้นทางใกล้กับรถจักรยานยนต์ โดยคนร้ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำงาน คาดว่าน่าจะมีการวางแผนที่จะก่อเหตุเพื่อหวังเงินในตู้เอทีเอ็มในครั้งนี้มานานแล้ว แต่ด้วยข้อผิดพลาด ของเสียงระเบิดที่ดัง ทำให้คนร้ายตกใจ รวมทั้งมีชาวบ้านที่ได้ยินได้ออกมาดู ทำให้คนร้ายไหวตัวรีบขี่รถจักรยานยนต์ หลบหนีไปทางสุสานเขาโมยอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้เงินไปแม้แต่บาทเดียว



ขณะเดียวกันทางตำรวจสืบสวน ได้ขอภาพจากกล้องวงจรผิดจากธนาคารเจ้าของตู้เอทีเอ็ม หลังตรวจสอบพบว่า กล้องของตู้ไม่ได้รับความเสียหาย พร้อมกันนี้
ได้กระจายกำลัง ตำรวจสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บจากภาพกล้องวงจรปิด ตามเส้นทางที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ได้แล้วหลายจุด ซึ่งจะนำมาเป็นเบาะแส ในการเร่งแกะรอยติดตามคนร้าย

พ.ต.อ. ดำรง เอี่ยมไพโรจน์ ผกก สภ.ขลุง เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ทางตำรวจ ได้พุ่งประเด็นการก่อเหตุไปที่ การประสงค์ต่อทรัพย์ โดยได้ตัดประเด็นปัญหาความขัดแย้งภายในสหกรณ์ออกไป