คุก “โมนา”ตลอดชีวิตฆ่า “น้องน้ำ”ฝังดิน

2019-02-20 13:05:16

คุก “โมนา”ตลอดชีวิตฆ่า “น้องน้ำ”ฝังดิน

Advertisement

ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต “โมนา” ฆ่า "น้องน้ำ" สาวใช้วัย 16 ปีนำศพไปฝังดินที่ จ.เพชรบุรีหนีความผิด ด้านเพื่อน –พี่ชายช่วยเหลือเจอคุกคนละ 2 ปี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 20 ก.พ. ที่ห้องพิจารณา 811 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดี หมายเลขดำ อ.3966/2560 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.กฤษณา สุวรรณพิทักษ์ หรือ โมนา อายุ 46 ปี อดีตผู้เข้าประกวดสาวงาม น.ส.ปรารถนา ท้วมทรัพย์ หรือ เม้า อายุ 33 ปี และนายปราโมทย์ สุวรรณพิทักษ์ หรือผู้ใหญ่บอย อายุ 44 ปี เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซ้อนเร้นทำลายศพ กรณีช่วงเดือน ก.พ.2555 น.ส.กฤษณา จำเลยที่ 1 ได้พา น.ส.จริยา ศรีศักดิ์ หรือน้องน้ำ อายุ 16 ปี มาทำงานรับใช้ในบ้าน จ.เพชรบุรี และเมื่อจำเลยที่ 1 เกิดโมโห อารมณ์ร้าย จะทุบตีน้องน้ำเสมอ จนกระทั่งวันที่ 11 เม.ย. 2555 จำเลยที่ 1 ได้ใช้กระป๋องสเปร์ย ยาวประมาณ 1 ฟุต ทุบตีที่ศีรษะหลายครั้ง อีกทั้งใช้กระบอกพลาสติกแข็งทุบตีบริเวณต้นขา และใช้ที่หนีบผมขณะที่ยังมีความร้อนจี้ตามลำตัวจนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส ก่อนถูกส่งตัวมาอยู่ที่บ้านเลขที่ 599/10 หมู่บ้านกลางกรุงรัชวิภา แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. และมาเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 เม.ย.2555 ก่อนที่จำเลยที่ 1 จะร่วมกับพวกนำศพใส่ท้ายรถเดินทางมาที่บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 7 ต.หนองโสน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนางโดโร ทิมพิทักษ์ มารดา ของจำเลยที่ 1 โดยมีจำเลยที่ 2 เพื่อนสนิท และ 3 ซึ่งเป็นพี่ชายคนละพ่อนำศพน้องน้ำไปฝังอำพรางคดีไว้บริเวณใต้ต้นตาล นอกรั้วบ้าน คดีนี้จำเลยที่ 1-2 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่ 3 กลับคำให้การรับสารภาพก่อนเริ่มสืบพยานซึ่งทั้งสามได้รับการประกันตัว ขณะที่มารดาของผู้ตาย ได้ยื่นคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วยเป็นเงิน 1,465,776 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า โจทก์มีพยานซึ่งเป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 1 ที่เห็นเหตุการณ์ทุบตีผู้ตายก่อนเสียชีวิตมาเบิกความ นอกจากนี้ยังมีคำให้การของจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนที่ให้การไว้ถึง 5 ครั้งโดยเป็นเหตุการณ์ที่ตรงกันหมดที่มีการทุบตีทำร้ายผู้ตาย จนมาเสียชีวิตภายหลัง ด้วยเหตุที่ว่าจำเลยที่ 1 เห็นว่าผู้ตายดื้อ ใช้อะไรก็ไม่ค่อยทำตาม ซึ่งจำเลยเป็นคนโมโหร้าย และยังเคยมีเหตุการณ์ทำร้ายจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทจนบาดเจ็บ และทำร้ายแฟนหนุ่มของบุตรสาวจนหัวแตก เพราะไม่พอใจเรื่องการพาไปเที่ยว โดยการกระทำของจำเลยที่ 1 ในการใช้กระป๋องสเปรย์น้ำยาปรับอากาศ ที่มีน้ำยาอยู่ด้วยจึงมีน้ำหนักพอสมควร ไปทำร้ายผู้ตายด้วยการตีที่ศีรษะอย่างแรง ต่อมายังใช้ท่อข้อต่อพลาสติกเครื่องดูดฝุ่นตีตามร่างกายผู้ตายอีก รวมทั้งใช้เครื่องม้วนผมที่มีความร้อนจี้ตามลำตัวเป็นบาดแผลนั้น เป็นการเล็งเห็นผลว่าจะถึงแก่ความตายได้

จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามมาตรา 288 ให้จำคุกตลอดชีวิต โดยไม่ลดโทษ และต้องชดใช้ให้มารดาผู้ตาย ที่ต้องขาดไร้อุปการะจากบุตรสาวที่เสียชีวิต รวมทั้งค่าปลงศพ เป็นเงินทั้งสิ้น 1,065,776 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีที่ผิดนัดชำระ นับตั้งแต่วันที่มารดาผู้ตายยื่นคำร้องให้ชดใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.2555 ส่วนจำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐานร่วมกันช่วยเหลือผู้อื่นไม่ให้ต้องรับโทษอาญาหรือรับโทษน้อยลง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ให้จำคุกคนละ 2 ปี โดยคำให้การของจำเลยที่ 2 ในชั้นสอบสวนมีประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกไว้ 1 ปี 4 เดือน ขณะที่จำเลยที่ 3 รับสารภาพก่อนสืบพยาน พิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพแต่เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แล้วเป็นการกระทำที่ร้ายแรง ซึ่งแม้จำเลยที่ 3 จะเคยเป็นผู้ใหญ่บ้านทำคุณงามความดีมาก่อนและเยียวยามารดาผู้ตายแล้วก็ตาม ก็ไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

ในส่วนของ น.ส.กฤษณา หรือโมนา จำเลยที่ 1 ซึ่งได้ยื่นหลักทรัพย์ 600,000 บาทนั้น ศาลเห็นควรส่งคำร้องขอประกันตัวดังกล่าวให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้พิจารณาและมีคำสั่งว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ต่อ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงจะควบคุมตัวไปขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลางระหว่างรอฟังคำสั่งประกันตัว ซึ่งคาดว่าศาลอุทธรณ์จะใช้เวลาพิจารณาภายใน 5-7 วัน

ขณะที่ในส่วนของ น.ส.ปรารถนา หรือเม้า เพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของโมนา จำเลยที่ 2 และนายปราโมทย์หรือผู้ใหญ่บอย ซึ่งเป็นพี่ชายของโมนา จำเลยที่ 3 ที่ยื่นหลักทรัพย์คนละ 200,000 บาทขอประกันตัว ศาลอาญาพิจารณาแล้วก็มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2-3 ระหว่างอุทธรณ์ โดยตีราคาประกันคนละ 200,000 บาท