แอร์บัส บริษัทผู้ผลิตอากาศยานยักษ์ใหญ่แห่งยุโรป ประกาศจะเลิกผลิตเครื่องบินโดยสารรุ่น เอ380 ซูเปอร์จัมโบ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในปัจจุบัน หลังจากผลิตออกมาสู่วงการบินได้แค่เพียง 12 ปี สาเหตุจากยอดขายตก สู้รุ่นขนาดเล็กกว่าไม่ได้
แถลงการณ์ของบริษัทแอร์บัส จากสำนักงานใหญ่ในเมืองไลเดิน ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันพฤหัสบดี (14 ก.พ.) กล่าวว่า แอร์บัสจะส่งมอบ เอ380 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการพัฒนาประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 781,834 ล้านบาท ชุดสุดท้ายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อ ในปี พ.ศ. 2564
การตัดสินใจเลิกผลิต เอ380 มีขึ้นหลังจากสายการบินเอมิเรตส์ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี ในตะวันออกกลาง ซึ่งสั่งซื้อรุ่น เอ380 มากที่สุด ลดการสั่งซื้อรุ่นนี้ ลงจากเดิม 162 ลำ เหลือ 123 ลำ และเปลี่ยนเป็นสั่งซื้อรุ่นเล็กกว่าคือ เอ330 และ เอ350 รวม 70 ลำแทน
นอกจากนั้น เอ380 ยังเผชิญกับการแข่งขันดุเดือด จากเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กกว่า และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า และเอ380 ยังไม่เคยทำกำไรให้บริษัท
นายทอม เอ็นเดอร์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของแอร์บัส กล่าวว่า การลดใบสั่งซื้อของลูกค้ารายใหญ่ หมายความว่าการผลิต เอ380 จะไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
เอ็นเดอร์ ซึ่งเตรียมจะก้าวลงจากตำแหน่ง ในเดือน เม.ย.ที่จะถึง เผยอีกว่า การตัดสินใจของสายการบินเอมิเรตส์ ส่งผลกระทบพอสมควรต่อผลประกอบการของแอร์บัสในปี พ.ศ. 2561 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 3,000 ล้านยูโร หรือ 106,063 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 30 % จากปีก่อนหน้า