"ชัยภูมิ" ลอบเผาป่ารายวัน จ่อวิกฤติ!หลายอำเภอ

2019-02-13 16:35:06

"ชัยภูมิ" ลอบเผาป่ารายวัน จ่อวิกฤติ!หลายอำเภอ

Advertisement

พบมีผู้ลักลอบเผาป่ารายวันในหลายพื้นที่ของ จ.ชัยภูมิ ส่งผลกระทบทำค่า PM 2.5 ปกคลุมพุ่งสูงถึง 105 มคก./ลบ.ม.จ่อวิกฤติในหลายอำเภอ

วันที่ 13 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ลักลอบเผาป่าถี่ยิบวันละหลายครั้งในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ทำให้สถานการณ์ไฟป่ายังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดในหลายพื้นที่ ทาง จนท. รับแจ้งต้องรีบเร่งช่วยกันดับจนกำลัง จนท.ไม่เพียงพอ ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตลอดทั้งวันกันอลหม่าน เริ่มทำให้เกิดหมอกควันหนาเข้าปกคลุมจ่อเข้าขั้นวิกฤตในหลายอำเภอโดยเฉพาะที่อำเภอบ้านเขว้า ค่าPM2.5 สูงถึง 105 มคก./ลบ.ม. อยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยการสำรวจถ่ายภาพทางอากาศจะเห็นฝุ่นปกคลุมชั้นบรรยากาศของ อ.บ้านเขว้าหนาแน่น คล้ายหมอกในตอนเช้า ปกคลุมไปทั่วบริเวณ  ผวจ.ชัยภูมิเตรียมบังคับใช้ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน เผาวัตถุก่อให้เกิดเพลิงไหม้เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่นต้องระวางโทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 150,000 บาท และอาจจะต้องรับผิดชอบความเสียหายทางคดีแพ่ง

ขณะที่ สถานการณ์เกิดไฟป่าที่ จ.ชัยภูมิ จ่อวิกฤตต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์และคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ พบว่าในพื้นที่ อ.บ้านเขว้า มีค่า PM2.5 สูงสุดถึง 105 มคก./ลบ.ม. อ.เมืองชัยภูมิ 59 มคก./ลบ.ม. อ.ภูเขียว63 มคก./ลบ.ม. อ.บำเหน็จ63มคก./ลบ.ม. และอ.แก้งคร้อ 61 มคก./ลบ.ม. ซึ่งสาเหตุทั้งหมด เกิดจากสาเหตุไฟป่าที่เกิดขึ้นในแต่ละวันถี่บ่อยครั้งมากขึ้น ต้องจัดชุดรถดับเพลิง จนท.ช่วยกันออกดับไฟป่ากันอลหม่านตลอดทั้งวัน จนขณะนี้ทำให้กำลังจนท.ไม่เพียงพอที่จะออกไล่ตามระงับเหตุช่วยกันดับไฟป่าได้ทันในหลายพื้นที่ได้ส่งผลกระทบทำให้สภาพอากาศท้องฟ้าทั่วไปใน จ.ชัยภูมิ โดยเฉพาะตามเส้นทางสายหลักที่ผ่าน จ.ชัยภูมิ ประตูสู่ภาคอีสานในหลายช่วงทางผ่านของถนนสายทางหลวงหมายเลข 201 ชัยภูมิ – สีคิ้ว เริ่มถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาขึ้นตามมาอีกเป็นจำนวนมาก




ล่าสุดขณะนี้ยังพบว่ายังมีการลักลอบเผาป่าเกิดไฟไหม้ป่ากระจายอยู่ทั่วไป ล่าสุดที่บริเวณริมถนนสาย 201 ชัยภูมิ-สีคิ้ว จากตัวเมืองชัยภูมิ ไปจนถึงรอยต่อ อ.จัตุรัส ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งช่วยกัน ระดม จนท.นำรถน้ำเทศบาล ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ไปช่วยกันดับไฟไหม้ป่าหญ้าข้างทาง ยาวไปตลอดทั้งสายกันต่อเนื่องยังไม่หยุดเป็นทางยาวกว่า 1 กม. จนเกิดหมอกควันกระจายไปทั่ว จนเกือบที่จะมองไม่เห็นถนน ผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านต้องเปิดไฟหน้ารถขับผ่าน เจ้าหน้าที่รถน้ำเร่งระดมกำลังช่วยกันสกัดไฟป่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะกำลัง จนท.มีไม่เพียงพอได้เนื่องจากมีลมกรรโชกแรง และทำให้ไฟลุกลามเข้าไปในป่าด้านในป่าลึกเข้าไปต่อเนื่องขยายวงกว้างเป็นจำนวนมากแล้วนับพันไร่

ซึ่งทางด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ เตรียมบังคับใช้ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 ดำเนินคดีกับผู้ฝ่าฝืน เผาวัตถุก่อให้เกิดเพลิงไหม้เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่นต้องระวางโทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 150,000 บาท และอาจจะต้องรับผิดชอบความเสียหายทางแพ่งพร้อมสั่งให้ผู้นำชุมชนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่หากพบใครลอบเผาป่าสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างจะต้องถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดทุกพื้นที่ทันทีด้วย เพราะขณะนี้เริ่มจะทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเพิ่มสูงขึ้น และต่อไปอาจจะกระทบทำให้เกินค่ามาตรฐานกระทบต่อสุขภาพของคนชัยภูมิเองตามมาอีกจำนวนมาก